กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ นำกำลังเข้าจับกุม นายลักษณ์คะณา หรือ ซ้อโฟ ที่ห้องพักแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี และนายเนตรนภา หรือ เก๋ ถูกจับกุมที่บ้านพักในจังหวัดขอนแก่น ในข้อหา "สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ฯ"
คดีนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อบัญชีว่า “ซ้อ’อ โฟ” ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 2.6 แสนยูสเซอร์ มีการลงภาพวิดีโอและข้อความเนื้อหาลามกอนาจาร ร่วมเพศกับเด็กผู้ชายจำนวนมาก พร้อมข้อความเชิญชวนรับชมคลิปวิดีโอแบบเต็มได้ที่ทวิตเตอร์แอคล็อค(ทวิตเตอร์แบบส่วนตัว) โดยจะต้องเสียเงินจำนวน 300 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบบัญชีทวิตเตอร์ชื่อ “NINJANIN” มีผู้ติดตามกว่า 1 แสนยูสเซอร์ ก็มีพฤติกรรมลงคลิปในลักษณะเดียวกัน และข้อความเชิญชวนให้เสียเงินจำนวน 399 บาท เพื่อรับชมคลิปวิดีโอแบบเต็มได้ที่กลุ่มไลน์ลับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแฝงตัวเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มทั้งสอง พบว่ามีคลิปลามกอนาจารที่ผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันกระทำอนาจารและมีเพศสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายวัยประถม จำนวน 4 คน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิสูจน์ทราบตัวตนของเด็กชายทั้ง 4 คน จึงได้เชิญตัวเยาวชนทั้ง 4 คน เข้าสู่กระบวนการเยียวยาทางร่างกายและจิตใจ พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับทั้งสองคนในความผิดเดียวกัน รวม 9 ข้อหา จนสามารถจับกุมตัวได้
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคน ให้การตรงกันว่า ทั้งคู่เป็นสาวประเภทสอง มีอาชีพผลิตสื่อลามกอนาจารระหว่างผู้ต้องหากับชายทั่วไป เพื่อขายที่บัญชีทวิตเตอร์ โดยนายลักษณ์คะณา ทำมาแล้วประมาณ 3 ปี ส่วนนายเนตรนภา ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี จนเมื่อประมาณเดือนตุลาคม พ.ศ.2565 นายลักษณ์คะณา ได้ติดต่อพูดคุยกับเด็กผู้ชายวัยประถมคนหนึ่งในเชิงชู้สาว ผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ และบอกให้เด็กชายคนนั้น ชวนเพื่อนเด็กชายวัยเดียวกันอีก 3 คน ให้มาร่วมกันมีเพศสัมพันธ์กับนายลักษณ์คะณา จากนั้นนายลักษณ์คะณา ก็ชักชวนนายเนตรนภา ผลิตสื่อในลักษณะเดียวกัน แล้วนำไปขายทางบัญชีทวิตเตอร์
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีความห่วงใยเด็กผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เพราะนอกจากความเสียหายทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับเด็กเหล่านี้แล้ว ยังมีความเสียหายทางจิตใจที่จะฝังรากลึก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในอนาคต จึงฝากเตือนภัยผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ให้สังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน ว่ามีการใช้จ่ายเงินฟุ้งเฟ้อเกินตัวหรือไม่ และหมั่นตรวจสอบการใช้สื่อออนไลน์ของเด็กว่ามีความผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่
ส่วนผู้ที่มีสื่อลามกเด็กไว้ในครอบครองจะต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีการส่งต่อสื่อลามกเด็ก หรือมีส่วนหรือเข้าไปเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน จะต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
เจ้าหน้าที่ยังเตือนผู้ที่คิดจะหลอกลวงเด็กหรือเยาวชน มาบันทึกภาพวิดีโอแล้วนำมาเผยแพร่เพื่อหารายได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ และเป็นความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกกว่าสิบปีต่อการกระทำผิดหนึ่งครั้ง และมีอายุความดำเนินคดี 20 ปี หากประชาชนมีเบาะแสหรือได้รับความเดือนร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ โทร สายด่วน 1191 หรือเพจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
#ล่อลวงเด็กชายถ่ายคลิป