*คณะทำงานนายกฯชี้สหรัฐตั้งทูตประจำปท.ไทย ส่งผลดีความสัมพันธ์*

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค คณะทำงานนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแต่งตั้งนายกลิน เดวีส์ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯมาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยแทนนางคริสตี้ เคนนีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยว่า เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งมองได้ว่าสหรัฐฯให้ความสำคัญในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไทย เพราะหากมองบางประเทศที่มีปัญหามาก ๆ กับสหรัฐฯ ก็จะดำเนินการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ประเทศไทย เมื่อนางคริสตี้กลับไปก็เว้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพราะทางสหรัฐฯจะต้องคัดคนที่เหมาะสม และส่งมาตามที่เขาได้พูดกับเราไว้หน้านั้น

ส่วนจะตีความว่า สหรัฐฯเข้าใจบทบาทของรัฐบาลทหารของไทยมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.วีรชน กล่าวว่า คิดว่าไม่สามารถตีความแบบนั้นได้ สหรัฐฯจะเข้าใจเราหรือไม่ เราต้องฟังจากปากเขาเราไม่สามารถพูดเองเออเองได้ การที่สหรัฐฯส่งเอกอัครราชทูตมาประจำประเทศไทยก็เป็นการยืนยันด้านความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศว่า ยังเหมือนเดิมหลังจากที่ก่อนหน้าที่ถูกโจมตีต่าง ๆนานา

บางครั้งสหรัฐฯอาจจะยังไม่เข้าใจเราในหลายเรื่องแต่เรื่องเอกอัครราชทูตที่มาประจำประเทศไทยต้องเข้าใจว่า เป็นเรื่องของขั้นตอนเพราะก่อนหน้านั้นนางคริสตี้มีบทบาทมาก ดังนั้นทางสหรัฐฯ จึงต้องคัดเลือกคนที่เหมาะสมอย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นทางสหรัฐฯก็มีการประสานมากับทางการไทยอย่างไม่เป็นทางการแล้วว่าจะดำเนินการคัดเลือกผู้ที่มาเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยและมีการสอบถามกับทางการไทยว่าอยากได้คนลักษณะใด และมีคุณสมบัติอย่างไร

ส่วนความสัมพันธ์ทางด้านการทหารต่อจากนี้จะดีขึ้นตามด้วยหรือไม่ พล.ต.วีรชน กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางด้านการทหารถือว่า ลดระดับไปน้อยมากเพราะทั้งสองประเทศยังคงเรื่องการฝึกและการศึกษาร่วมกันเหมือนเดิม แต่อาจมีการลดรูปแบบลงไปบางอย่างเท่านั้น ส่วนเรื่องการจัดซื้ออาวุธต่างๆ นั้นถือได้ว่าไม่มีผลกระทบใดๆ

สำหรับประวัตินายเกล็น ทาวน์เซนด์ เดวีส์ นั้น เป็นนักการทูตอาชีพลำดับชั้นอัครราชทูตที่ปรึกษา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน ก่อนหน้านั้น นายเดวีส์เคยเป็นผู้แทนพิเศษด้านนโยบายเกาหลีเหนือระหว่างพ.ศ. 2555–2557 และปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้แทนสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency—IAEA) ระหว่างปีพ.ศ. 2552–2555 และช่วงปีพ.ศ. 2542–2546 นายเดวีส์รับตำแหน่งอัครราชทูตที่ปรึกษาของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ณ กรุงลอนดอน

นายเดวีส์ ยังเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Council – NSC) ระหว่างปีพ.ศ. 2540–2542 รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาและรองผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายกิจการสาธารณะระหว่างพ.ศ. 2538–2540 และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ (Operations Center) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างพ.ศ. 2535–2537 โดยก่อนหน้านั้น เคยไปปฏิบัติราชการในหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และซาอีร์ นายเดวีส์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขา Foreign Service จาก Georgetown University และปริญญาโทจาก National Defense University.