+++เว็บไซต์รัฐบาลไทย www.thaigov.go.th เผยแพร่ คำปราศรัย เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2558 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ โดยมีข้อความระบุว่า “เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2558 ซึ่งเป็นวันปีใหม่ไทย ผมในนามของรัฐบาลขอมอบความรักและความปรารถนาดีมายังพี่น้องชาวไทยทั้งที่อยู่ในประเทศและในต่างประเทศทุกท่าน ประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีสำคัญของชาติไทยมาแต่โบราณ ถือเป็นกิจกรรมการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี รวมทั้งผู้ใหญ่ที่ทุกท่านเคารพนับถือ และเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกของครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ได้ทำกิจกรรมทางศาสนา ทั้งการสรงน้ำพระ การทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ และการรดน้ำ ขอพรผู้มีพระคุณ ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันทำให้เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความรื่นเริง เสริมสร้างความรัก ความสามัคคีปรองดองของคนไทยทุกหมู่เหล่าทั้งประเทศ เพื่อให้สังคมไทยของเรามีความสุขอย่างแท้จริง และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันทำกิจกรรมในวันสงกานต์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น นายกฯ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานอย่างหนักในช่วงวันหยุดยาวนี้ เพื่อบริการและอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัย และในโอกาสนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดลบันดาลพระราชทานพรให้พี่น้องชาวไทยทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุและภัยพิบัติทั้งปวง และร่วมกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งความรัก ความสามัคคี เพื่อความผาสุกร่มเย็น ของบ้านเมืองสืบไป สวัสดีปีใหม่ไทย"
+++พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย มาตรการคุมเข้มการเล่นน้ำสงกรานต์ว่า เพิ่มกำลังดูแลพื้นที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) ตามจุดที่จัดงาน เช่น ถนนข้าวสาร จาก 1,000 นาย เป็น 1,500 นาย และ ถนนสีลม จาก 300 นาย เป็น 500 นาย พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว จากตำรวจท่องเที่ยว โดยมีกองปราบปราม ตชด. เป็นกำลังเสริม ทั้งนี้ จนท.ทุกนายจะช่วยสอดส่องผู้ที่เล่นน้ำสงกรานต์ไม่เหมาะสม เช่น อนาจารผู้อื่น หลังจากรับแจ้งเหตุในพื้นที่ข้าวสาร จึงต้องป้องกันและป้องปรามไว้ก่อนจะเกิดเหตุ
+++ส่วนปัญหาเด็กแว้น สั่งการให้ดำเนินการอยู่ตลอดเวลา โดยส่งชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ลงไปหาข่าวว่าจะนัดรวมตัวในจุดใดบ้าง เช่น ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดี-รังสิต และถนนเกษตรนวมินทร์ โดยตั้งด่านตรวจสกัดจับอยู่ตลอด ทำให้เด็กแว้นเปลี่ยนไปใช้ถนนที่ จ.ปทุมธานี และนนทบุรี ประลองความเร็วแทน พร้อมฝากไปถึงประชาชนหากพบเห็นการจับกลุ่มรวมตัวของเด็กแว้น ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สกัด พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังในการตรวจค้น หากคาดว่ามีอันตรายให้หลีกเลี่ยง โดยใช้วิธีการบันทึกภาพเป็นหลักฐาน ขยายผลจับกุมภายหลัง
+++เรื่องของสภาพอากาศและผลกระทบจากพายุฤดูร้อน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พบว่ามีจังหวัดได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อน 36 จังหวัด 105 อำเภอ 247 ตำบล 960 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 7,903 หลัง จึง ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจัด เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อสำรวจความเสียหายและดำเนินการช่วยเหลือ พร้อมนำเครื่องอุปโภคบริโภค วัสดุซ่อมแซมบ้านเรือนไปมอบแก่ผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมถึงฟื้นฟูสิ่งสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ได้เน้นย้ำ 12 จังหวัดภาคกลาง และภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และคลื่นลมแรง ในวันที่ 13 – 14 เม.ย. ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม หารือร่วมกับกรมการบินพลเรือน(บพ.) และตัวแทน 6 สายการบินของไทยที่ทำการบินไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหายกเลิกเที่ยวบินจนส่งผลกระทบกับผู้โดยสารว่า เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือให้ทุกสายการบินโดยเฉพาะเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ(ชาเตอร์ไฟลต์) ปฏิบัติตามข้อบังคับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินให้ครบถ้วน โดยจะต้องตรวจสอบความพร้อมของสภาพตัวเครื่องบิน แผนการซ่อมบำรุงรวมไปถึงความพร้อมของนักบินและลูกเรือให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อนบินทุกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสายการบินของไทยที่บินไปยังญี่ปุ่น จะผ่านขั้นตอนการถูกตรวจสอบซ้ำที่สนามบินของประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามระหว่างนี้จนถึงสิ้นพ.ค. ทั้ง 6 สายการบิน สามารถทำการตลาดได้ตามปกติ เพราะยังอยู่ในช่วงที่ญี่ปุ่นผ่อนผันให้ไทยบินได้ ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจในการแก้ไขผลกระทบ
+++นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวว่า ขณะนี้กรมการบินพลเรือนของประเทศจีนได้แจ้งว่าในช่วงต้นเดือนพ.ค. จะนำคณะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย เพื่อขอสอบถามข้อมูลจากบพ.ไทย และจะขอตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยสายการบินของไทยที่มีเส้นทางบินไปยังประเทศจีนด้วย ทั้งสายการบินประจำและชาเตอร์ไฟลท์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาถูกสั่งห้ามบินเหมือนกรณีญี่ปุ่น เพราะหากจีนประกาศห้ามเครื่องบินจากไทยบินเข้าและออกจีน รัฐบาลจีนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากทั้ง2ประเทศมีการเดินทางแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันจำนวนมาก โดยเฉพาะเที่ยวบินชาเตอร์ไฟลท์ ส่วนแผนการแก้ไขปัญหาทยอยส่งให้ตามมาตรฐานขององค์การการบินระหว่างประเทศ(ไอซีเอโอ)พิจารณาแล้ว ซึ่งได้มีการปรับแผนการแก้ไขปัญหาให้เร็วขึ้น เดิมจะแล้วเสร็จเสร็จต.ค. แต่ขณะนี้ปรับให้เร็วขึ้นเป็นภายใน มิ.ย.
+++นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า จะรวบรวมความเห็นให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนพ.ค. เพื่อนำรายงานครั้งสุดท้ายของกรรมาธิการฯ เสนอต่อ สนช. เพื่อให้เห็นชอบ และส่งต่อไปยังนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยตามขั้นตอน กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญยังมีเวลานำความเห็นต่างๆไปพิจารณาว่าจะปรับแก้จุดใดบ้าง พร้อมมั่นใจว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมประยะที่ 3 ของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายนจะเสนอร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำเสร็จแล้วให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนติดตามและร่วมแสดงความเห็นต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ได้ทุกช่องทางนายสุรชัย ยังกล่าวถึงการประชามติหลังยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วว่า ต้องรอความชัดเจนจากกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่าจะมีความเห็นอย่างไร ซึ่งหากเห็นควรให้มีการทำประชามติคงจะเสนอให้ คสช. พิจารณา ที่สุดแล้วคงเป็นการตัดสินใจของ คสช. อย่างไรก็ตามในการเสนอความเห็นครั้งสุดท้ายของ สนช. ต่อคณะกรรมาธิการยกร่างฯนั้น จะเสนอความเห็นเรื่องการทำประชามติควบคู่ไปด้วย สำหรับร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกที่จัดทำเนื้อหาเสร็จเรียบร้อยทั้ง 315 มาตราแล้วนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ยังมีหลายประเด็นที่มีความเห็นต่างเช่น เรื่องที่มาส.ว. ที่ยังเห็นต่างเรื่องวิธีการให้ได้มาซึ่ง ส.ว.
+++ข้อมูลของศูนย์บริหารจัดการภาวะวิกฤต การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รายงานว่า การผลิตและส่งไฟฟ้าของภาคตะวันตก เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่3 ของการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ เพื่อซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานาและซอติก้า ของสหภาพเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 10 เม.ย. – 27 เม.ย. 58 เป็นปกติ สามารถรองรับการใช้ไฟฟ้าอย่างเพียงพอ โดยมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดทั้งประเทศเท่ากับ19,041.7 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา20.09 น. จากสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุดที่ 27,056.8 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา 14.28 น. วันที่ 7 เม.ย. 58 ซึ่งโรงไฟฟ้าทุกโรงสามารถเดินเครื่องได้โดยไม่มีเหตุขัดข้องทั้งนี้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะลดลงในช่วงหยุดเทศกาลสงกรานต์และจะกลับมาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปี กฟผ. จึงขอความร่วมมือประชาชน ร่วมกันประหยัดไฟในช่วงเวลา 13.00-15.00 น. และ 18.30-20.30 น. เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และตอบสนองการใช้ไฟฟ้าของประชาชนได้อย่างเพียงพอ
+++พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก. ภ.จว.ฉช. พ.ต.อ.สงคราม เสงี่ยมพักตร์ ผกก. สภ.พนมสารคาม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.พนมสารคาม และกำลังจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้คุมตัวผู้ต้องหารวม 3 คน จากทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายคมสันต์ จันทร์ศรี (เบิร์ด) อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.5 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ผู้ที่ก่อเหตุเข้าชกต่อย สวป.สภ.พนมสารคาม นายรุ่งโรจน์ (เสม) แก้วถิ่นเกตุ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.7 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี เป็นผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ รุ่นโนวาแดท สีเขียวขาว ของนายคมสันต์ หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ นายนันทชัย (จา) แสงอินทร์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 ม.7 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทาดำ ไปรับตัวนายรุ่งโรจน์ หลังจากได้นำรถจักรยานยนต์ของนายคมสันต์ ไปซ่อนเก็บไว้ที่บ้านเพื่อน พล.ต.ต.สุรพล พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าตำรวจจำนวนกว่า 40 นาย ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังที่บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท.ชวาลกิต 1 ริมถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ฉะเชิงเทรา ด้านฝั่งขาเข้า นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีก 2 คนเป็นเยาวชน อายุเพียง 17 ปี ได้แยกไปทำการสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเด็กและเยาวชนต่อไป
+++สำนักข่าวอิสนาของอิหร่าน รายงานอ้างนายอาลี จันนาติ รัฐมนตรีวัฒนธรรมอิหร่านว่า รัฐบาลอิหร่านได้ระงับเที่ยวบินที่จะมุ่งไปแสวงบุญอุมเราะห์ตลอดทั้งปีที่ซาอุดิอาระเบีย หลังมีข้อกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของซาอุดิอาระเบียได้ละเมิดทางเพศวัยรุ่นชายชาวอิหร่าน 2 คน ระหว่างการตรวจค้นตามมาตรการความปลอดภัยที่สนามบินเมืองเจดดาห์ของซาอุดิอาระเบียเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า อิหร่านจะงับเที่ยวบินเพื่อการแสวงบุญในซาอุดิอาระเบียไปจนกว่าทางการซาอุดิอาระเบียจะไต่สวนและลงโทษเจ้าหน้าที่ดังกล่าว คาดว่าเรื่องนี้จะยิ่งสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นระหว่าง 2 มหาอำนาจประจำภูมิภาค หลังมีความขัดแย้งกันในเรื่องสงครามในเยเมน
+++กลุ่มโจรกรรมไซเบอร์ ซึ่งสงสัยว่าได้รับการสนับสนุนจากจีนทำการสอดแนมรัฐบาลและธุรกิจในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย โดยที่ไม่มีใครระแคะระคายนานนับ10ปีจากการเปิดเผยของบรรดานักวิจัยของไฟร์อายอิงค์ (FireEye)บริษัทความมั่นคงอินเตอร์เน็ต การสอดแนมทางไซเบอร์ต้องย้อนกลับไปอย่างน้อยในปี2548และเป้าหมายมุ่งเน้นไปที่รัฐบาลธุรกิจการค้าและสื่อมวลชนที่มีผลประโยชน์อยู่ในจีน ซึ่งข้อมูลสำคัญที่โจรกรรมนั้นเกี่ยวกับการเมืองเศรษฐกิจและทหารรวมทั้งปัญหาดินแดนที่เป็นข้อพิพาทและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากรัฐบาลจีนในทันทีแต่จีนมักปฏิเสธข้อกล่าวหาการสอดแนมไซเบอร์อยู่เสมอๆ
CR:ห้องข่าวตำรวจ