ความคืบหน้าของการติดตามคดีระเบิด ห้างเซนทรัลเฟสติวัล สมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)เปิดเผยว่า การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากพอควร เจ้าหน้าที่มุ่งเน้นน้ำหนักไปที่ประเด็นการก่อความไม่สงบเพื่อหวังผลทางการเมือง เนื่องจากพบความผิดปกติที่เหตุการณ์ครั้งนี้ มีกลุ่มการเมืองหลายกลุ่มทราบว่าจะเกิดเหตุ โดยคาดว่าเป็นการจ้างวานผู้ที่มีความชำนาญในการประกอบระเบิด แต่ยังไม่สามารถเปิดรายละเอียดใดๆ ได้ ซึ่งขณะนี้จากพยานหลักฐานที่มียังไม่สามารถนำไปสู่การออกหมายจับได้ ที่ไม่ให้น้ำหนักไปที่ประเด็นความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพราะไม่ใช่การขยายพื้นที่ก่อเหตุ เนื่องจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ใช่พื้นที่เป้าหมาย และเป็นพื้นที่ที่อยู่ไกลจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนประเด็นเรื่องของรถกระบะที่ถูกขโมยจากพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา มองว่ามีน้ำหนักน้อย เนื่องจากรถที่ใช้ในการก่อเหตุในพื้นที่ก็ถูกขโมยมาจากจังหวัดอื่น ๆ โฆษกสตช กล่าวถึงประเด็นความขัดแย้งส่วนตัวว่า ได้เรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ถูกไล่ออกมาสอบปากคำ พบว่าไม่มีน้ำหนักเนื่องจากผู้ที่ถูกไล่ออกหรือลาออกไม่ได้ทำผิดร้ายแรง รวมถึงได้งานใหม่ที่ดีกว่า จึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุในการก่อเหตุได้ จากรายงานระบุว่า พนักงานสอบสวน ได้ไปตรวจค้นบ้านพักของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทั้ง 3 คน ด้วย
ด้านพล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนขยายผลและตรวจสอบหลักฐานในหลายจุดพบข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า มีการจัดฉาก หรือ สนับสนุนให้มีการขโมยรถยนต์จากพื้นที่ อ. ยะหา จ.ยะลา มาใช้ในการก่อเหตุ เพื่อหวังให้เชื่อมโยงไปว่าเป็นผู้ก่อเหตุจากสามจังหวัดชายแดนใต้ ลักษณะวิธีการปล้นรถ มีความแตกต่างจากเหตุการณ์จริงที่มักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้มัดและควบคุมตัวคนขับรถก่อนจะขโมยรถหลบหนีไป มีความเกี่ยวเนื่องกับสภาพแวดล้อมใกล้ชิดกับเจ้าของรถ จนน่าเชื่อได้ว่าบุคคลแวดล้อมน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับผู้ก่อเหตุ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ยังเชื่อมั่นในข้อมูลว่า การก่อเหตุเป็นบงการของกลุ่มการเมืองอำนาจเก่า ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ แต่เบี่ยงเบนประเด็นให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับเหตุในสามจังหวัด ซึ่งมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ไม่หลงประเด็นอย่างแน่นอน