รณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ผ่าน 4 วันจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเกือบ 200 ศพแล้ว

13 เมษายน 2558, 12:03น.


การติดตามสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน 2558 ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ในช่วงสงกรานต์ว่าเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 520 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 70 ศพ บาดเจ็บกว่า 527 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ จ.สุรินทร์ 22 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากสุดมี 2 จังหวัดคือ นครสวรรค์และสุรินทร์ จังหวัดละ 6 ศพ ส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดคือ จ.นครศรีธรรมราช 21 คน สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุยังเป็นสาเหตุเดิมๆคือ เมาสุรา และขับรถเร็วเกิดกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากสุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์กว่าร้อยละ 83.33 ซึ่งพบว่ากว่าร้อยละ 31เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น กว่าร้อยละ 60 เกิดในทางตรง และเกิดในถนนสายรองประจำหมู่บ้านกว่าร้อยละ 39 เนื่องจากประชาชนเริ่มทยอยถึงภูมิลำเนาและใช้ถนนสายรองมากขึ้น ทั้งนี้ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดยังเป็นเวลา 16.00-20.00 น. และผู้ที่ประสบเหตุส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน อย่างไรก็ดีจากการตั้งจุดตรวจกว่า 2,239 จุด สามารถเรียกตรวจยานพาหนะได้ 660,220 คัน และดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายได้กว่า 112,674 คน ส่วนมากพบว่ากระทำผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่มีใบขับขี่ 


เมื่อสรุปรวมอุบัติเหตุ 4 วันตั้งแต่วันที่ 9-12 เมษายน 2558 พบว่าเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 1,735 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 191 ศพ บาดเจ็บ 1,808 คน โดยจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดจำนวน 66 ครั้ง ส่วนจ.ร้อยเอ็ด เป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดจำนวน 9 ศพ และจ.สุราษฎ์ธานีเป็นจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสูงสุดจำนวน 71 คนโดยมี 16 จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต


นพ. รัชตะ ระบุว่า ในภาพรวมอุบัติเหตุปีนี้ลดลงกว่าปีที่แล้ว แต่สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุยังเป็นสาเหตุเดิมๆคือเมาสุราและขับรถเร็วเกิดกำหนด รวมทั้งผู้ขับขี่ไม่เคารพกฎจราจรและขับรถแซงทางโค้ง และตั้งแต่วันนี้จะเน้นมาตรการป้องกันถนนทางหลวงชนบทมากขึ้น เนื่องจากประชาชนกลับถึงภูมิลำเนาแล้ว ทำให้หันมาใช้ถนนชนบทแทนถนนทางหลวงแผ่นดิน และขณะนี้ภาครัฐได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีการตั้งด่านชุมชนขึ้นเป็นระยะตามถนนชนบท เพื่อตักเตือนและป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งพบว่าช่วยให้อุบัติเหตุลดลง อย่างไรก็ดี นพ.รัชตะ  ระบุว่า จากสถิติทุกปีพบว่าช่วงวันที่ 12-14 เมษายนที่อยู่ในช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมากสุด เพราะเป็นช่วงที่ดื่มและท่องเที่ยวกันมากซึ่งเป็นปัจจัยก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย 


ส่วนมาตรการป้องกันนั้น กระทรวงได้ออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับการป้องกันการดื่มแอลกฮอลล์ออกมาเมื่อต้นปี ซี่งจะนำมาบังคับใช้อย่างเข้มงวด โดยห้ามดื่มสุราบนยานพาหนะ หากพบเห็นจะมีโทษปรับ 5,000-20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้จะมีการเรียกตรวจจับแอลกฮอลล์ตามด่านเป็นระยะ และขอให้มั่นใจว่าเครื่องเป่าแอลกฮอลล์ผ่านการตรวจสอบและยืนยันว่ามีประสิทธิภาพแน่นอน ทั้งนี้ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูแลตัวเองและปฎิบัติตามกฎจราจรซึ่งเป็นวิธีป้องกันอุบัติเหตุได้ดีที่สุด และหากผู้ใดต้องการความช่วยเหลือสามารถโทร 1669 ได้ตลอด 24 ชม. พร้อมระบุว่ากว่าร้อยละ 70 ของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุได้โทรมายัง 1669 แต่ก็ยังพบว่ามีประชาชนจำนวนมากที่โทรมาก่อกวน ซึ่งส่วนตัวได้ขอร้องให้ยุติ เพราะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือที่แท้จริง


...ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร 
ข่าวทั้งหมด

X