นาย จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ตั้งแต่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯ ยิงวัตถุต้องสงสัย 3 ลำที่ละเมิดน่านฟ้าสหรัฐฯ ซึ่งผลจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่า มีความเกี่ยวข้องกับบอลลูนจีนที่สหรัฐฯ เรียกว่า บอลลูนสอดแนม และยังไม่มีประเทศใด หรือบริษัทใดอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของวัตถุทั้ง 3 ลำล่าสุดนี้ แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นบอลลูนด้านการพาณิชย์หรือการวิจัย ซึ่งไม่เป็นอันตราย
ด้าน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำบริษัทของจีนเพิ่มเติมอีก 6 แห่ง เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาบอลลูนของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ (13 ก.พ.66) กองทัพสหรัฐฯยิงวัตถุต้องสงสัยเหนือทะเลสาบฮูรอน โดยเครื่องบินรบ F-19 ยิงขีปนาวุธไซด์วินเดอร์ลูกแรกพลาดเป้า และทำให้ต้องยิงลูกที่ 2 และทำให้วัตถุนั้นได้รับความเสียหายอย่างมาก
ศูนย์บัญชาการภูมิภาคเหนือของกองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยุติการเก็บกู้ชิ้นส่วนบอลลูนจีนที่ถูกยิงเหนือชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 แล้ว โดยพบชิ้นส่วนสำคัญของระบบเซ็นเซอร์ แผงวงจรไฟฟ้า แต่ยังไม่มีการเก็บกู้ชิ้นส่วนของวัตถุต้องสงสัยอีก 3 ลำ
โดยในการที่ผู้นำกองทัพนำเสนอรายงานเกี่ยวกับวัตถุที่ละเมิดน่านฟ้าสหรัฐฯ ต่อที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันอังคาร (14 ก.พ.) นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา กล่าวว่า สภาจะเปิดการไต่สวนว่าเหตุใดกองทัพจึงไม่มีการตรวจพบบอลลูนก่อนหน้านี้
ด้านนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน วิพากษ์วิจารณ์การที่สหรัฐฯส่งเครื่องบินรบยิงขีปนาวุธทำลายวัตถุต้องสงสัยที่ละเมิดน่านฟ้า ว่าเป็นการตอบสนองที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งเปิดเผยด้วยว่า ตั้งแต่ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว จีนตรวจพบ “บอลลูนน่าสงสัย” ของสหรัฐฯ ละเมิดน่านฟ้าจีน “อย่างน้อย 10 ครั้ง” และจีนจัดการกับบอลลูนเหล่านี้ “ด้วยความรับผิดชอบและเป็นมืออาชีพ”
...
#บอลลูนจีน
#สหรัฐ