ตำรวจสอบสวนกลาง เตรียมสอบเส้นทางการเงิน ‘สารวัตรซัว’ หลังถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่

13 กุมภาพันธ์ 2566, 13:02น.


          วันนี้ (13 ก.พ.66) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ประชุมทีมชุดสืบสวนครั้งแรก ที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อหารือแนวทาง กรอบการทำงาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีสารวัตรซัว หรือ พันตำรวจโท วสวัตติ์ มุครสกุล  อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ตามที่พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินธุรกิจในเครือของสารวัตรซัวทั้งหมด  หลังถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 เนื่องจาก ขาดราชการเกิน 15 วัน



          ตำรวจสอบสวนกลาง จะร่วมกับคณะทำงานที่มีความเชี่ยวชาญจากแต่ละหน่วยงานมาร่วมกัน เช่น กองปราบปราม,กองบัญชาการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อตรวจสอบในทุกประเด็น ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำว่า หากพบว่าผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องให้ดำเนินการโดยไม่ละเว้น



          ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มอบหมายให้กรมการปกครองไปตรวจสอบ “มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป”ซึ่งพบว่าไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยในวันนี้ได้มอบหมายให้พนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการรับจดทะเบียนมูลนิธิ ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของมูลนิธิเป็นต่อ หลังพบว่า ไม่ได้มีการจดแจ้งขออนุญาตก่อตั้งมูลนิธิ 



          ส่วนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่สาธารณชนในชื่อของมูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป ก็เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ใน 3 ความผิดฐาน คือ 



1.ผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ.2499 ที่ได้ใช้คำว่า “มูลนิธิ” ประกอบกับชื่อในดวงตราและเอกสารอื่นเกี่ยวกับธุรกิจ โดยไม่ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ



2.ผิดพ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 มาตรา 8 ประกอบมาตรา 17 



3.ผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 



          นอกจากนี้ ได้กำชับให้กรมการปกครอง ประสานงานกับกองบังคับการปราบปรามอย่างใกล้ชิด เพื่อสอบสวนขยายผลต่อไป



          นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามหนังสือถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อขอให้ตรวจสอบเว็บไซต์ https:/www.pentorfoundation.com ซึ่งการกระทำของบุคคลที่แอบอ้างใช้คำว่า “มูลนิธิ” ผ่านเว็บไชต์ดังกล่าว อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายและอาจทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ากิจการนั้น เป็นมูลนิธิที่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อาจเป็นการกระทำโดยทุจริตหรือหลอกลวงหรือนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 



           รวมทั้งยังสั่งไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัด กำชับนายอำเภอทุกอำเภอตรวจสอบการดำเนินงานของมูลนิธิต่างๆที่อาจเกี่ยวพันกับธุรกิจผิดกฎหมายว่ามีการขออนุญาตก่อตั้งมูลนิธิ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งตรวจสอบการดำเนินกิจการของมูลนิธิที่ได้มีการก่อตั้งแล้ว หากพบความผิดปกติทางการเงินหรือไม่ได้มีกิจกรรม หรือมีการดำเนินการที่เข้าข่ายความผิด ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด



 



#สารวัตรซัว



#เว็บพนันออนไลน์

ข่าวทั้งหมด

X