สหรัฐฯคว่ำบาตรบริษัทพลังงานสิงคโปร์-มาเลเซีย เหตุพัวพันการค้าน้ำมันกับบริษัทอิหร่าน

          กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทเอเชีย ฟิวเอล (Asia Fuel) และบริษัทยูนิเชียส เอ็นเนอร์ยี (Unicious Energy) ในสิงคโปร์ และบริษัทเซนส์ ชิปปิง แอนด์ เทรดดิง (Sense Shipping and Trading) ในมาเลเซีย เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในเรื่องการผลิต การขายและการขนส่งปิโตรเคมี เช่น โพลีเอทิลีน และน้ำมันปิโตรเลียมอิหร่านทางเรือไปให้กับผู้ซื้อในเอเชีย โดยมีการติดต่อซื้อขายน้ำมันและน้ำมันปิโตรเลียมกับอิหร่าน รวมถึงบริษัท ไตรอัลลายน์แอนซ์ ปิโตรเลียม (Triliance Petrochemical) ซึ่งถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำมาตั้งแต่ปี 2563

          นอกจากนี้ สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรบริษัทผู้ผลิตปิโตรเคมี หรือบริษัทย่อยรวม 6 แห่งในอิหร่าน เช่น บริษัทอามีร์ คาบีร์ ปิโตรเคมิคอล (AKPC) บริษัทย่อยของบริษัทซีมอร์กห์ ปิโตรเคมี และบริษัทย่อยอีก 4 แห่งของบริษัทมารูน ปิโตรเคมี ซึ่งถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรมาก่อนแล้ว ฐานเกี่ยวข้องกับการผลิต การขายและการขนส่งปิโตรเคมีและปิโตรเลียมมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

         นายไบรอัน เนลสัน ปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฝ่ายข่าวกรองด้านการก่อการร้ายและการเงิน เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน อิหร่านเริ่มหันไปขายปิโตรเคมีและน้ำมันปิโตรเลียมให้กับลูกค้าในเอเชียตะวันออกเช่น จีน เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน สหรัฐฯจะเดินหน้าปราบปรามการลักลอบค้าน้ำมันของอิหร่าน ถือเป็นรายได้ที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งจะคว่ำบาตรบริษัทอื่นๆที่ทำธุรกิจค้าขายน้ำมันกับอิหร่าน ทั้งๆที่รู้ว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

         ที่ผ่านมา สหรัฐฯดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อขัดขวางไม่ให้อิหร่านลักลอบส่งออกน้ำมันดิบและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเช่น ปิโตรเคมีและน้ำปิโตรเลียม หลังความพยายามในการฟื้นการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามไว้ในปี 2558 ชะงักงันเรื่อยมา ทั้งสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) แย่ลง ขณะเดียวกัน อิหร่านยังคงปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล

#สหรัฐฯ

#ลงโทษบริษัทที่ค้าขายกับอิหร่าน

#คว่ำบาตรอิหร่าน