ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา สินค้า GI ตัวใหม่ สร้างรายได้ 2,800 ล้านบาทต่อปี

          น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  สถานการณ์ตลาดผลไม้ในประเทศไทย เป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง รวมถึงการส่งออกผลไม้ไทยไปต่างประเทศ ยังสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยเฉพาะทุเรียน ที่มูลค่าส่งออกกว่าแสนล้านบาทต่อปี  ซึ่งผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนก.พ.-ต้นเดือนส.ค.นี้  และผลผลิตมากที่สุดในเดือนเม.ย. โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นทะเบียน “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตัวใหม่ของจังหวัดยะลา มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 190 บาท สร้างรายได้ให้คนยะลามากถึง 2,800 ล้านบาทต่อปี

          ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมแผนรองรับสถานการณ์แก้ไขปัญหาทุเรียนตั้งแต่ช่วงการดูแลผลผลิต ไปจนถึงการตัดทุเรียนขาย ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาการลักลอบขายทุเรียนอ่อน ดังนั้น จึงจัดระบบการทำงานเชิงรุก ผ่านคณะทำงานแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพและการสวมสิทธิ์ใช้ใบรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ของเกษตรกรเพื่อการส่งออกทุเรียนของประเทศไทย โดยคณะทำงานได้จัดทำแผนพร้อมรับมือการแข่งการส่งออกทุเรียนของประเทศเพื่อนบ้าน

          โดยจะจุดบริการตรวจเปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน ในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 68 จุด ได้แก่ จันทบุรี 40 จุด , ตราด 7 จุด , ระยอง 6 จุด , ชุมพร 10 จุด นครศรีธรรมราช 5 จุด  สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจากกรมประมงและกรมปศุสัตว์ รวม 100 คน ลงพื้นที่ตรวจรายแปลง และกรมวิชาการเกษตร มีหน้าที่ตรวจสอบโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ทุเรียนที่นำมาส่งที่ล้ง จะต้องมีใบรับรองผลการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน โดยได้กำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียน ดังนี้  ทุเรียนพันธุ์กระดุมและพวงมณี เก็บเกี่ยว วันที่ 10 มี.ค.66 ,พันธุ์ชะนี เก็บเกี่ยว วันที่ 20 มี.ค.66 และทุเรียนพันธุ์หมอนทอง เก็บเกี่ยววันที่ 15 เม.ย.66

          จึงขอความร่วมมือเกษตรกร ถ้าเก็บเกี่ยวก่อนวันประกาศ ให้นำตัวอย่างผลทุเรียนลูกที่อ่อนที่สุดในรุ่นที่จะเก็บเกี่ยวมาให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เช่น แปลงใหญ่ ตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง เพื่อออกใบรับรองความแก่ แนบไปกับรถขนส่งทุเรียนไปจำหน่าย ณ ที่ล้ง/โรงคัดบรรจุ โดยพันธุ์กระดุมเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งไม่น้อยกว่า 27 เปอร์เซ็นต์ ,พันธุ์ชะนีไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ,พันธุ์พวงมณีไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และพันธุ์หมอนทองไม่น้อยกว่า 32 เปอร์เซ็นต์ 

#ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา

#แก้ปัญหาทุเรียนอ่อน