ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 05.00-07.00 น. (3 ชั่วโมงล่าสุด) ตรวจวัดได้ 11-31 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 19.7 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีที่มีการตรวจวัด
เมื่อเวลา 07.00 น.ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 11-31 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีที่มีการตรวจวัด(มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)
-ในช่วงวันที่ 8-14 ก.พ. 2566 คาดว่า อัตราการระบายอากาศดี อากาศค่อนข้างเปิด ประกอบกับมีฝนบางพื้นที่ เนื่องจากช่วงวันที่ 8-13 ก.พ. 66 ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป มีหย่อมความกดอากาศต่ำ มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มทรงตัว ช่วงวันที่ 14-18 ก.พ.66 อากาศแปรปรวน จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น เนื่องจากจะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ แผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคอีสาน ทิศทางลมยังแปรปรวนในช่วงแรก ก่อนที่จะกลายเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมหนาว) มีกำลังแรงขึ้น และวันนี้พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
-ช่วงวันที่ 9-15 ก.พ. 2566 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลมีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศที่ดีเนื่องจาก สภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกำลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละออง ออกจากพื้นที่
จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 จุด ดังนี้
-วันที่ 8 ก.พ. 2566 เวลา 13.49น. เขตมีนบุรี
-วันที่ 9 ก.พ. 2566 เวลา 02.14น. เขตราษฎร์บูรณะ และเขตมีนบุรี
#อากาศ
#ฝุ่นPM
CR:กรุงเทพมหานคร