ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ ปี 2566 โดยคาดว่าวาเลนไทน์ปีนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัด 2,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ15.5 คึกคักสุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2563 ที่ประเทศไทยเริ่มมีการระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนความหมายของคำว่าความรัก โดยแยกตามรุ่น หรือ Generation (Gen) จะพบว่า
-Gen X ส่วนใหญ่ตอบว่า ความรักคือการร่วมทุกข์ร่วมสุข
-Gen Y ส่วนใหญ่ตอบว่า ความรักคือความสุข เช่นเดียวกัน
-Gen Z ที่ส่วนใหญ่ตอบว่า ความรักคือความสุข
สำหรับการไปฉลองวาเลนไทน์ปีนี้นั้น ผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 49.2 ต้องการจะไปฉลองวาเลนไทน์กับคนรัก หรือคนรู้ใจ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างในสัดส่วนใกล้เคียงกัน ร้อยละ 50.8 ตอบว่าไม่ไปฉลอง โดยสถานที่ที่ต้องการไปฉลองวาเลนไทน์มากสุด คือ ห้างสรรพสินค้า รองลงมา คือ คาเฟ่ และร้านอาหาร ส่วนปัจจัยที่ใช้ในการเลือกซื้อของขวัญในวันวาเลนไทน์ 5 อันดับแรก คือ ความชอบของผู้รับ รองลงมา คือ ความสะดวก, ประโยชน์, ความนิยม และราคา
ค่าใช้จ่ายโดยรวมในช่วงวันวาเลนไทน์ เมื่อจำแนกตาม Gen จะพบว่า Gen X มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 2,130 บาท/คน Gen Y มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,643 บาท/คน และ Gen Z มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,812 บาท/คน โดยเฉลี่ยแล้วมีค่าใช้จ่ายโดยรวมในช่วงวาเลนไทน์ 1,848บาท/คน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจพบว่า บรรยากาศการฉลองวาเลนไทน์ปีนี้ถือว่าคึกคัก แต่อาจจะไม่คึกคักเต็มที่ เนื่องจากวันที่ 14 ก.พ.ปีนี้ ตรงกับวันอังคาร ซึ่งเป็นวันธรรมดา ไม่ใช่ช่วงวันหยุด โดยภาพรวมบรรยากาศการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ คาดว่าเม็ดเงินจะสะพัดมากกว่าในปีที่ผ่านมา มูลค่าการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ดี ยังไม่รวมเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาฉลองวาเลนไทน์ในประเทศไทย
#โพลวาเลนไทน์
#หอการค้าไทย