เว็บไซต์ข่าวแชนเนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์รายงานว่า หลายคนในมาเลเซียคงจะรอมาสักพักหนึ่งแล้วเพื่อฟังจากนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค หลายสัปดาห์หลังถูกอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวหาว่า บริหารการเงินการคลังของประเทศผิดพลาด ทำให้ กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลมีหนี้สินจำนวนมาก พร้อมทั้งเชื่อมโยงเขาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมน.ส.อัลตันตูยา ชาอารีบู นางแบบชาวมองโกเลียด้วย คำวิจารณ์ของดร.มหาเธร์ มาพร้อมกับการเรียกร้องให้เขาลาออก นายกรัฐมนตรี นาจิบกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นความเห็นส่วนตัวของนายมหาเธร์ ซี่งเขาจะไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของคนเพียงคนเดียว แต่จะตอบสนองและรับผิดชอบต่อกระแสเรียกร้องของประชาชนและพรรคการเมืองซึ่งเขาเป็นผู้นำในขณะนี้เท่านั้น
สำหรับเรื่องกองทุนรัฐบาลที่มีหนี้สินมาก จะปล่อยให้เป็นเรื่องที่ผู้ตรวจเงินแผ่นดินจะทำการตรวจสอบว่า มีการทุจริตหรือยักยอกเพื่อใช้จ่ายในธุรกิจภาพยนต์ของบุตรเขยของเขาจริงหรือไม่ และจะไม่ลังเลใจที่จะดำเนินคดีกับผู้ทำความผิด แต่ไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าการสอบสวนควรจะเสร็จเมื่อใด สำหรับเรื่องคดีฆาตกรรมนางแบบสาวชาวมองโกเลีย นายนาจิบย้ำว่าเขาได้สาบานต่อคัมภีร์อัลกุรอาน 3 ครั้งว่าเขาไม่เคยพบและเกี่ยวพันไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมกับการสังหารนางแบบดังกล่าว ผู้นำมาเลเซียยังได้ตั้งคำถามว่าเหตุใดผู้คนจึงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผลการตัดสินคดีของศาลในขณะนี้
สำหรับคดีนี้ 2 อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนายนาจิบถูกตัดสินประหารชีวิต พวกเขาอ้างว่าทำตามคำสั่งของนายใหญ่ แต่มีคำถามว่าใครคือนายใหญ่ที่สั่งการให้มีการสังหาร อีกทั้งเหตุจูงใจเรื่องนี้ก็ไม่มีการชี้แจ้งให้ชัดเจน ไม่ว่าโดยศาลหรือโดยนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะยอมรับความจริงว่าไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ ทุกคนล้วนแต่มีข้อบกพร่องด้วยกันทั้งนั้น นายนาจิบกล่าวว่าเขาเป็นบุคคลที่รับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งเขารู้ว่าจะไม่มีวันจบสิ้น แต่เขาขอให้ประชาชนไม่ทำให้การวิพากษ์วิจารณ์นี้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองจนถึงขนาดกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ/18.24 น.