กลุ่มEUเตรียมเก็บภาษีลาภลอยจากบริษัทน้ำมัน หลังมีกำไรจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

          ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายวาเอล ซาวาน ซีอีโอของบริษัทเชลล์ ผู้ประกอบธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันปิโตรเลียมของอังกฤษว่า เชลล์ ทำกำไรรวม 39,900 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 เพิ่มกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับกำไร 19,300 ล้านดอลลาร์ปี 2564 จากปัจจัยราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น หลังรัสเซียบุกยูเครนเมื่อต้นปีก่อน อีกทั้งเป็นกำไรที่สูงที่สุดในรอบ 115 ปี ระบุว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเชลล์ เป็นผลจากการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนในกิจการพลังงานที่หลากหลาย รวมถึงขีดความสามารถของเชลล์ในการส่งมอบพลังงานสำคัญให้กับลูกค้าในช่วงเวลาที่เกิดความเปราะบางต่อความมั่นคงของธุรกิจพลังงานทั่วโลก

         โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าก๊าซธรรมชาติ รวมถึงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นธุรกิจทำรายได้อย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 40 ของรายได้ของเชลล์รวมตลอดทั้งปี 2565 ขณะเดียวกัน หุ้นของบริษัทเชลล์ในตลาดหุ้นกรุงลอนดอนปรับเพิ่มร้อยละ 1.7 ในช่วงแรกของการซื้อขายวันนี้

         บริษัทเชลล์จะจ่ายภาษีลาภลอย (windfall taxes)ซึ่งเก็บจากกำไรจากบริษัทพลังงานตามมาตรการทางภาษีของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) และมาตรการภาษีของอังกฤษเพิ่มเติมรวม 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังการจ่ายภาษีรวม 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับรัฐบาลทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีสำนักงานสาขาของเชลล์ประกอบธุรกิจในปีที่แล้ว

         เป็นหลักฐานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทพลังงานรายใหญ่ของโลก ทำกำไรก้อนโตจากราคาน้ำมันและก๊าซที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท เอ็กซอนโมบิลของสหรัฐฯ ประกาศในสัปดาห์นี้ว่าบริษัทมีกำไรรวม 59,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2565 ต่อเนื่องจากบริษัทเชฟรอนของสหรัฐฯที่ประกาศเมื่อเดือนก่อนว่า บริษัทกำไรรวมทั้งสิ้น 36,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2565 ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้บริษัทพลังงานจ่ายภาษีให้กับรัฐในอัตราที่สูงขึ้น

         ที่ผ่านมา รัฐบาลในกลุ่มอียูและอังกฤษ ประกาศใช้ภาษีลาภลอยซึ่งเก็บจากผลกำไรของบริษัทพลังงาน เพื่อนำเงินรายได้ส่วนนี้ไปช่วยครัวเรือนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาเดือดร้อนจากค่าครองชีพสูงและน้ำมันแพงในปัจจุบัน

#อังกฤษ

#บริษัทเชลล์มีกำไรสูงขึ้นสองเท่า

#รัสเซียบุกยูเครน