ดัชนี PMI จีนเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังยกเลิกนโยบายโควิด-19 เหลือศูนย์

          ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)สำหรับภาคการผลิตอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดกิจกรรมการผลิตของโรงงานอยู่ที่ 50.1 ในเดือนมกราคม 2566 เพิ่มจากระดับ 47 เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน นับเป็นการเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วที่ดัชนี PMI สูงเกิน 50

          เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ปัญหาสับสนวุ่นวายในระยะแรก หรือ ผลกระทบเชิงลบจากการยกเลิกนโยบายลดโรคโควิด-19 เหลือศูนย์อย่างฉับพลันในช่วงต้นเดือนธันวาคมปีก่อน ทำให้สาธารณชนในจีนไม่ได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้า จนกระทั่งนำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งต่อมาประชาชนกักตัวอยู่ในบ้าน กระทบโรงงาน ไม่มีแรงงานเข้าทำงานเนื่องจากป่วย มีการปิดร้านและตลาดต่างๆในระยะแรกๆ ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้เริ่มคลี่คลายลงในเดือนมกราคม

          ขณะเดียวกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ไม่ใช่ภาคการผลิต หรือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 54.4 ในเดือนมกราคม 2566 จาก 41.6 ในเดือนธันวาคมปีก่อน ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนเช่นกัน สำหรับตัวเลข PMI สูงเกิน 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน เช่น การผลิตสินค้าและการขายสินค้าของโรงงานอุตสาหกรรม มีการเติบโต ส่วนกรณีตัวเลข PMI ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะถดถอยของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

         ด้านนางชีนา ยิว(Sheana Yue) นักเศรษฐศาสตร์จีนจาก Capital Economics ระบุว่า การเติบโตของตัวเลข PMI ของจีนในเดือนมกราคม เป็นหลักฐานแสดงว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของโรงงานอุตสาหกรรมจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังผลกระทบต่างๆ หรือความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในระยะแรกๆเริ่มจางหายไปในเดือนมกราคม 2566

          นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ ระบุในทำนองเดียวกันในรายงานการวิจัย คาดว่า ตัวเลข PMI ทั้งดัชนีชี้วัดการผลิตอุตสาหกรรม และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะยังคงเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากสาธารณชนส่วนใหญ่ในจีนเริ่มปรับตัวอยู่กับโรคโควิด-19 คาดว่า หลังเทศกาลตรุษจีน กิจกรรมการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

#จีน

#ดัชนีPMI

#เศรษฐกิจ