พปชร.เสนอชื่อ 'พล.อ.ประวิตร' เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค มั่นใจได้เป็นนายกฯคนที่ 30

27 มกราคม 2566, 13:10น.


            ในการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ครั้งที่ 1/2566  โดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรค,นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม



           ก่อนประชุมมีการแจ้งให้สมาชิกทราบว่า มีกรรมการบริหารพรรคลาออก 3 คน คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลาออกจาก ผอ.พรรค, นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลาออกจากกรรมการบริหารพรรค  และนายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์  ลาออกจากนายทะเบียนพรรค  จากนั้นได้มีการเสนอให้สมาชิกลงมติเลือกกรรมการบริหารพรรค จำนวน 3 คนทดแทนตำแหน่งที่ว่างคือ พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และนายอภิชัย เตชะอุบล เป็นกรรมการบริหารพรรค





          จากนั้น ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค เสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นบุคคลที่พรรค พปชร.เสนอให้ได้รับการพิจารณาเป็นนายกฯ โดยเสนอเพียงชื่อเดียว โดยขั้นตอนจากนี้จะมีการเสนอต่อที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้าเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป



          นายวิรัช กล่าวว่า วันนี้ต้องถือว่า พปชร. ก้าวนำในพื้นที่ เพราะสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ก่อนทุกพรรค โดยเสนอเพียงชื่อเดียว ซึ่งทุกคนจะต้องร่วมแรงร่วมใจ หรือเอาใจบันดาลแรง ที่จะทำให้แคนดิเดตนายกฯ พปชร.ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30  และเชื่อมั่น 100% หรือ 1,000% ก็ว่าได้ ว่าหัวหน้าพรรค พปชร.จะได้เป็นนายกฯ แน่นอน



          สำหรับนโยบายแรกที่จะใช้หาเสียงเลือกตั้ง คือ  บัตรประชารัฐ 700 บาท  และจากสโลแกนของ พปชร. เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาพื้นที่ อยากให้ทุกคนช่วยกันรณรงค์ ช่วยกันไปหาเสียงกับประชาชน จะใช้คำว่า 700 ทั่วไทย หรือจะใช้คำว่า ป้อม 700 หัวหน้าพรรคไม่ได้ขัดข้อง



          ด้านนายไพบูลย์ ระบุว่า ได้รับฟังความเห็นจาก ส.ส. ตัวแทนพรรค สาขาพรรค และสมาชิก ที่เห็นตรงกันว่า พรรคต้องเสนอการบุคคลที่สมาชิกพรรคเคารพสูงสุด และเป็นศูนย์รวมจิตใจมาโดยตลอด คือ พล.อ.ประวิตร จึงได้เสนอพล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงชื่อเดียวเพื่อคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และศักดิ์ศรีของพรรค เชื่อว่า พล.อ.ประวิตร มีความเหมาะสม และจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แน่นอน



         สำหรับการประชุมใหญ่สามัญของพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้  พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย เนื่องจากติดราชการ รวมทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ติดภารกิจลงพื้นที่ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ มากันเกือบพร้อมเพรียงไม่ว่าจะเป็น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ โควตากลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า





 #ประชุมพรรคพลังประชารัฐ

ข่าวทั้งหมด

X