ผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ครวญต้นทุนอาหารสัตว์สูง อาจต้องลดการเลี้ยงส่งผลให้เนื้อไก่แพงขึ้น

             นายวีระพงษ์ ปัญจวัฒนกุล ที่ปรึกษาสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้เลี้ยงไก่เนื้อกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะต้นทุนการเลี้ยงไก่เนื้อปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน ล่าสุดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขยับขึ้นมาอีก 2-3 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 42-43 บาทต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ 45 บาทต่อกิโลกรัม  

             สาเหตุที่ต้นทุนการเลี้ยงไก่เนื้อสูงขึ้น เนื่องจากราคาอาหารสัตว์ปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปรับราคาเพิ่มอีก 6 บาทต่อถุงขนาด  30 กิโลกรัม มาอยู่ที่ 550 บาทต่อถุง ขณะที่ราคาพันธุ์ไก่ก็ปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุน ค่าไฟฟ้าก็ปรับเพิ่มขึ้น 30% รวมถึงค่าจ้างแรงงงาน ซ้ำเติมภาวะต้นทุนให้สูงขึ้นไปอีก

            ในขณะที่ต้นทุนสูงขึ้น แต่ราคาขายไก่เนื้อเข้าโรงงานชำแหละกลับต่ำกว่าปีก่อน โดยราคาขายเข้าโรงงานอยู่ที่ 41-45บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากขณะนี้ตลาดไม่เอื้อให้ปรับขึ้นราคา เพราะซัพพลายล้นตลาด จากการส่งออกเนื้อไก่ที่ชะลอตัวลงอย่างมาก เพราะตลาดสำคัญอย่างอียูและญี่ปุ่นลดการนำเข้า เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น หากปรับราคาก็จะขายไม่ออก รวมถึงการเปิดประเทศของจีนก็ทำให้กำลังการบริโภคภายในปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก

           ทางเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อ เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลเรื่องราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ขอให้เห็นใจคนเลี้ยงไก่บ้างไม่ใช่ดูแลเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกพืชที่นำมาทำวัตถุดิบอาหารไก่ เพราะขณะนี้ผู้เลี้ยงไก่ขาดทุนติดต่อกันมา 2 เดือนแล้ว ไม่รู้ว่าจะแบกภาระต้นทุนได้อีกนานแค่ไหน หากแบกไม่ไหว อนาคตคงต้องแก้ปัญหาขาดทุนด้วยการลดปริมาณการเลี้ยงลง ซึ่งจะทำให้ราคาไก่แพงขึ้นและในที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชนต้องกินไก่แพงแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

          ด้านกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ แจ้งราคาจำหน่ายปลีก เนื้อไก่ในตลาดสดกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 26 ม.ค.2566 ว่า

-ไก่สดชำแหละ น่อง สะโพก และไก่สดทั้งตัว ไม่รวมเครื่องใน ราคา 75-85 บาทต่อกิโลกรัม

-ไก่สดชำแหละเนื้อสันใน และ ไก่สดชำแหละ เนื้ออก เนื้อล้วนราคา 90- 100 บาทต่อกิโลกรัม

-ไก่สดชำแหละ เนื้ออก ติดหนัง และไก่สดชำแหละ น่อง ราคา 80-85 บาทต่อกิโลกรัม เป็นต้น

#ไก่แพง