คลัง คาดศก.ไทยปีนี้โต 3.8% ท่องเที่ยวฟื้นตัว-เงินเฟ้อ เริ่มปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย

27 มกราคม 2566, 11:24น.


          ผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 และ 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงรายละเอียด



-เศรษฐกิจไทยปี 2565 คาดว่า จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.0 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.8 ถึง 3.3)



-คาดว่าปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการจะขยายตัวที่ร้อยละ 8.2 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 8.0 ถึง 8.5) ขณะที่ ปริมาณการนำเข้าและบริการ คาดว่า จะขยายตัวที่ร้อยละ 7.1 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 6.9 ถึง 7.4)



-การผ่อนปรนมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศของประเทศต่าง ๆ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศที่ปรับดีขึ้น ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและภายในประเทศสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่า การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวที่ร้อยละ 6.9 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 6.7 ถึง 7.2) และการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.2 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 ถึง 4.5)



-สำหรับในปี 2566 กระทรวงการคลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 3.8 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.3 ถึง 4.3) เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียที่จะเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น คาดว่า ในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 27.5 ล้านคน ขยายตัวที่ร้อยละ 147 ต่อปี ส่งผลให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มสูงขึ้น



-ปริมาณการส่งออกสินค้าจะชะลอลงตามการชะลอลงของอุปสงค์ประเทศคู่ค้าสำคัญ คาดว่า การส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ จะขยายตัวที่ร้อยละ 0.4 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ -0.1 ถึง 0.9)



-การบริโภคภาคเอกชน คาดว่า จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.0 ถึง 4.0) ตามรายได้ภาคประชาชนที่เพิ่มขึ้น โดยบทบาทของนโยบายการคลังจะยังมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในทุกภาคส่วนให้เป็นไปอย่างทั่วถึง



-การลงทุนภาคเอกชน คาดว่า จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.1 ถึง 4.1) จากความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เริ่มกลับมาดีขึ้น



-อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 2.8 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.3 ถึง 3.3) ปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ 1.0 – 3.0 เนื่องจาก ราคาพลังงานโลกที่ลดลง



-เสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดจะกลับมาเกินดุล 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.5 ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.0 ถึง 1.0 ของ GDP)



*ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดมีทั้งปัจจัยสนับสนุน เช่น ภาคการท่องเที่ยวที่มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้มากกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ตามแนวทางการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางของรัฐบาลจีน



*ปัจจัยเสี่ยง เช่น



1.ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป



2.ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงระหว่างประเทศและปัจจัยการผลิตต่างๆ



3.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศจีนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019





#เศรษฐกิจไทย



CR:กระทรวงการคลัง:Ministry of Finance, กองนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง



 

ข่าวทั้งหมด

X