เพจเฟซบุ๊ก “หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว” โพสต์เล่าเรื่องราวดาราสาวชาวไต้หวัน ชื่อ อันยู๋ชิง หรือ ชื่อภาษาอังกฤษว่า Charlene An ที่โพสต์เล่าประสบการณ์ที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยเมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ และอ้างว่าถูกตำรวจไทยรีดไถเงิน ซึ่งเมื่อเธอกลับไปไต้หวันแล้ว ก็โพสต์เล่าเรื่องนี้ในอินสตาแกรม จนกลายเป็นข่าวดังในไต้หวัน เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม ซึ่งทางเพจระบุว่า ได้ตรวจสอบเว็บไซต์ข่าวในไต้หวันแล้วพบว่ามีการลงข่าวเรื่องนี้ในหลายสื่อ จึงแปลเนื้อหาข่าวและเนื้อหาที่ดาราสาวรายนี้โพสต์
โดยดาราสาว ระบุว่า เมื่อช่วงวันที่ 4 มกราคม 2566 ก่อนกลับไต้หวัน 1 วัน ขณะที่นั่งรถแท็กซี่กับเพื่อนๆ เพื่อกลับโรงแรม ตอนนั้นเวลาราวตี 1 กว่าๆ ระหว่างทางถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกให้รถหยุดและขอค้นตัว ค้นกระเป๋า โดยมีการมาจับค้นที่กระเป๋ากางเกง และกระเป๋าสตางค์ มีการถามถึงเรื่องวีซ่า เมื่อเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ดูเเละบอกว่าได้ขอวีซ่า VOA หรือ Visa on Arrival เข้ามา (VOA คือวีซ่าที่ขอที่สนามบินเมื่อมาถึงไทย เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจค้นเธอกลับบอกว่า ไม่ยอมรับวีซ่า VOA ต้องใช้เป็นวีซ่าจริงๆที่มีตราและพิมพ์เท่านั้น
เพื่อนในกลุ่มเธอได้อัดคลิปไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และเพื่อป้องกันตัว แต่ถูกเจ้าหน้าที่บอกให้ลบคลิป เจ้าหน้าที่ไม่ได้พาเธอไปสถานีตำรวจ แต่ให้เธอยืนรอ จนเมื่อย พอเธอนั่งยองกับพื้น ก็ทำเสียงดุใส่บอกให้ยื่นและบังคับให้เธอขอโทษ เธออ้อนวอนให้ปล่อยเธอไป เพราะเธอไม่ได้ทำผิดอะไร และเธอกลัวมาก เธอบอกว่าตอนนั้นเหมือนในหนังพวกเม็กซิกันที่จับค้นค้ายาอะไรแบบนั้นเลย แต่เธอไม่ใช่ เธอคือนักท่องเที่ยว
เธออ้อนวอนเจรจาอยู่นาน แทบจะกราบ เธอบอกพยายามพูดภาษาไทยนิดๆพูดว่า ขอโทษ ขอร้อง เเต่ไม่เป็นผล เธอทำทุกอย่าง เหลือเพียงแต่คุกเข่าไหว้แค่นั้น สุดท้ายยื้ออยู่ราว 2 ชั่วโมง และได้พาเธอไปที่ลับตาคน โดยมีการหลบกล้อง cctv หน้าสถานทูตจีน (จากที่เธอบอกต่อสื่อ) เเล้วบอกว่า “ทั้งหมดในรถต้องจ่ายมา 27,000 บาท ถึงจะยอมปล่อย!!” ทางดาราสาว บอกว่า คือง่ายๆ จะเอาเงินนั่นแหละ เธอเลยถึงบางอ้อ
สุดท้ายพอเธอยอมจ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกเเท็กซี่ให้พวกเธอกลับโรงแรม เธอยังเล่าต่อว่า ข้างๆเธอยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เป็นผู้หญิง 5 คน โดนอย่างเธอ ไม่แน่ใจว่า กลุ่มที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ (เธอเรียกพวกนี้ว่า 黑警 hēijǐng เฮยจิ่ง หมายถึง ตำรวจเลว ) คือจ้องจะจับแต่นักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวเอเชียหรือไม่?!
เธอยังกล่าวต่อว่า “ ไม่คิดเลยว่า ไปเที่ยวปีใหม่ที่ไทยหวังเจอประสบการณ์ดีๆ แต่กลับกลายเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายและน่ากลัวที่สุดในชีวิต และฉันจะไม่ไปเหยียบเมืองไทยอีก ฉันอยากเตือนคนไต้หวันว่า จะไปไทยให้ระวัง อย่าพกเงินสดติดตัวในกระเป๋าเยอะ เพราะโดนสุ่มค้นตัวมา หาเรื่องยัดข้อหา พวกนั้นจับดูกระเป๋าเงินก่อน ให้ระวังดีๆ ดาราสาวให้สัมภาษณ์กับสื่อไต้หวันลงท้ายว่า… “เพราะพวกเขาขาดรายได้จากการท่องเที่ยวมานานช่วงโควิด พอเปิดประเทศทีกลายเป็นมีแต่ปัญหาแบบนี้(รีดไถ)”
สื่อได้มีการสัมภาษณ์ไกด์ท้องถิ่นในไทย ได้รับคำตอบว่า “นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเอง ดวงไม่ดีก็อาจเจออะไรแบบนี้ มาขอค้นตัว ค้นกระเป๋า อ้างนั่นนี่ จริงๆถ้าไม่อยากมีปัญหา ให้รีบยัดเงินก่อนไปเลย อารมณ์ค่าผ่านทาง (過路費)” ก็จบเร็ว…เธอโพสต์ลงIG ว่า 再見 爛曼谷! แปลได้ว่า ลาก่อน กรุงเทพห่วยๆ!!
ล่าสุด วันนี้ (26 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าว โทรศัพท์สอบถาม พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง ระบุว่า ทราบข่าวดังกล่าวแล้ว และกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ตามปกติในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการตั้งด่านตรวจของ สน.ห้วยขวางในจุดนั้น ทั้งนี้ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อยืนยันความชัดเจนอีกครั้ง
cr : เพจ หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว
#ดาราไต้หวัน