องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศให้เมืองโอเดสซาในยูเครนเป็นเมืองมรดกโลก เพื่อปกป้อง 'คุณค่าสากลที่โดดเด่น' ของเมืองท่าเรือในทะเลดำ ที่กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากการทำลายล้าง
อย่างไรตาม ในการลงมติของคณะกรรมการมรดกโลกสมาชิก 21 ประเทศ ปรากฏว่ามี 6 เสียงที่ออกเสียงสนับสนุน, ไม่เห็นด้วย 1 เสียง และงดออกเสียง 14 เสียง หลังจากที่รัสเซียซึ่งรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว (2565) พยายามชะลอการลงคะแนน
น.ส.ออดรีย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก กล่าวว่า ในขณะที่สงครามดำเนินต่อไป การลงมติในครั้งนี้ จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเมืองจะได้รับการปกป้องจากการทำลายล้าง
ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ซึ่งคำร้องให้เมืองโอเดสซาเป็นเมืองมรดกโลกเมื่อเดือนตุลาคม โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์แสดงความยินดีต่อผลการลงมติ และขอขอบคุณพันธมิตรที่ช่วยปกป้องเมืองสำคัญจากการโจมตี ทั้งช่วยให้เมืองสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือทางการเงินและทางเทคนิคระหว่างประเทศได้
ส่วนกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวหา กลุ่มประเทศตะวันตกว่าพยายามผลักดันการตัดสินใจที่มี “แรงจูงใจทางการเมือง” ซึ่งเป็นการละเมิดขั้นตอนมาตรฐาน การพิจารณาและลงมติรับรองโอเดสซาเป็นไปอย่างเร่งรีบ โดยไม่เคารพมาตรฐานระดับสูงในปัจจุบันของยูเนสโก ที่สำคัญคือมีเพียง 6 ประเทศเท่านั้นที่ลงมติเห็นชอบ ทั้งยืนยันว่าอดีตอันรุ่งเรืองทางประวัติศาสตร์ของโอเดสซาคือในฐานะส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ภัยคุกคามเดียวที่โอเดสซาเผชิญอยู่คือจากระบอบชาตินิยมในยูเครนซึ่งได้ทำลายอนุสรณ์สถานหลายแห่งในเมือง รวมถึงการรื้อถอนอนุสาวรีย์ของจักรพรรดินีแคทเธอรีนมหาราชแห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมือง แต่ยูเครนโต้แย้งว่าเมืองโอเดสซามีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15 ในชื่อฮัดซีเบ
…
#ยูเครน
#ยูเนสโก