สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯวันนี้ ณ เวลา 9.00 น. มีพื้นที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 4 เขต ได้แก่ เขตตลิ่งชัน ทวีวัฒนา หนองแขม คลองสามวา ขณะที่ทางกรุงเทพมหานคร เตือนคนกรุงเทพฯ ให้เตรียมรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.)
นายพันศักดิ์ ถิรมงคล ผู้อำนวยการกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง คาดการณ์ล่วงหน้า 7 วัน พบว่า ช่วงที่วันที่ 27 ม.ค.66 จะมีปัญหาฝุ่นละอองอีกครั้ง โดยจะเกิดพื้นที่สีส้มทั่วกรุงเทพฯ และอีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ.66 ซึ่งปัญหาฝุ่นละออง จะอยู่กับคนกรุงเทพฯไปจนถึงเดือนเมษายน เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าปีนี้มีความแห้งแล้งมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงเป็นปัจจัยส่งเสริมทำให้ PM 2.5 อาจจะรุนแรงขึ้น ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา พบว่าเดือนที่มักจะมีความรุนแรงของ PM 2.5 มากที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์
ขณะที่นายศักดา ตรีเดช ผู้อำนวยการส่วนนวัตกรรมคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึง 2 ปัจจัยหลักของการเกิดฝุ่น ปัจจัยแรก ได้แก่ เพดานลอยตัวของอากาศ โดยข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า เพดานอากาศต่ำกว่า 500 เมตร ทำให้เกิดสถานการณ์ PM 2.5 เนื่องจากเพดานอากาศจะสูงขึ้นในหน้าร้อน และเพดานอากาศจะต่ำลงในหน้าหนาว และสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือในช่วงวันที่ 31 ม.ค. 66 ถึง 1 ก.พ. 66 สถานการณ์มีโอกาสรุนแรงเหมือนวันที่ 24 ม.ค.66 ซึ่งไม่สามารถควบคุมปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาได้ แต่สิ่งที่สามารถควบคุมได้คือ ปัจจัยที่สอง แหล่งกำเนิด เช่น การจราจร ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในพื้นที่กรุงเทพ โรงงานอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน การเผาในที่โล่ง ก็สามารถร่วมด้วยช่วยกันควบคุมได้
ขณะที่กรุงเทพมหานคร มีแผนแก้ไขสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 คือ การติดตามและแจ้งเตือนโดยการตั้งวอร์รูมแก้ปัญหา PM 2.5 , การเปิด Traffy Fondue เพื่อรับแจ้งปัญหาจากประชาชน และการพยากรณ์สถานการณ์ฝุ่นล่วงหน้าเพื่อแจ้งเตือนประชาชน โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,การแก้ปัญหาจากต้นตอของฝุ่นละออง PM2.5 เช่น ควันดำจากรถยนต์ การเผาชีวมวลจากการเกษตร การเผาในที่โล่ง และโรงงานอุตสาหกรรมอีกด้วย รวมถึงการรณรงค์ส่งเสริมความรู้ ข้อควรปฏิบัติและวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM 2.5 โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขของ กทม. เพื่อรองรับการให้บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งหน่วยงานภาครัฐได้ร่วมมือกันอย่างเข้มข้นเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพฯ ร่วมกัน
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังขอความร่วมมือประชาชนใช้บริการรถสาธารณะให้มากขึ้น โดยเฉพาะในวันที่ 27 ม.ค.66และวันที่ 1 ก.พ.66 ที่ค่าฝุ่นในกรุงเทพจะเป็นสีแดง ส่วนมาตรการที่จะให้ประชาชน Work From Home ในวันที่ค่าฝุ่นสูงนั้น กทม. ได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขอความสมัครใจจากภาคเอกชน ซึ่งตอนนี้ มี 11 บริษัทเอกชน ที่สนใจและจะเข้าร่วม Work From Home กับ กทม. รวมถึงได้แจ้งเตือนขอให้ประชาชนงดออกกำลังกายกลางแจ้ง ส่วนโรงเรียนขอให้ปิดหน้าต่างและให้โรงเรียนงดทำกิจกรรมนักเรียนนอกอาคาร ขณะที่การสวมใส่หน้ากากอนามัยหากเป็นหน้ากากอนามัยปกติจะป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้น้อย หากเป็นหน้ากาก N95 จะสามารถกรองและป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้มากกว่า
ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้แก่ แอปพลิเคชัน AirBKK เว็บไซด์ http://www.airbkk.com http://air4thai.pcd.go.th http://www.pr-bangkok.com รวมถึง Facebook สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร, กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม http://www.pr-bangkok.comจากนี้กรณีพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแส ผ่านทาง Traffy Fondu
#ฝุ่นละออง