มาเก๊า ลดธุรกิจบ่อนคาสิโน หันมาพัฒนาสวนสนุก-ศูนย์ประชุมกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่ม

          เอเอฟพี รายงานอ้างนายซูลู เซา อดีตสส.ของมาเก๊า เขตปกครองของจีน ว่า มาเก๊า มีแผนกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปสู่โครงการอื่นๆรวมมูลค่า 14,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น การพัฒนาโครงการสวนสนุก การก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการ การจัดทำห้องจัดงานเลี้ยง และการจัดแสดงศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของมาเก๊าให้มั่นคงในระยาว สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ที่ชูนโยบายปราบปรามปัญหาทุจริต การฟอกเงิน และบ่อนคาสิโน โดยเฉพาะบ่อนคาสิโนยังคงเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในประเทศจีน แต่ถูกกฎหมายในมาเก๊า อีกทั้งที่ผ่านมา เศรษฐกิจมาเก๊าได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

           นายเซา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงต่างๆในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตลอดถึงทัศนคติเรื่องนโยบายบ่อนคาสิโนที่เปลี่ยนแปลงของจีน รวมถึงกรณีที่นายอัลวิน เชา วัย 48 ปี ประธานบริหารของซันซิตี้ บริษัททัวร์คาสิโนรายใหญ่ที่สุดของมาเก๊าถูกศาลตัดสินเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 ให้จำคุก 18 ปีจากความผิดฐานจัดตั้งองค์กรอาชญากรรม และเครือข่ายการพนันผิดกฎหมาย กรณีการชักจูงนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนให้เข้าไปเล่นพนันในบ่อนคาสิโนในมาเก๊า ทำให้รัฐบาลมาเก๊าต้องคิดหาทางกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจในระยะยาว

           นายเซา กล่าวถึงบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ว่า มีนักท่องเที่ยวจากจีนทยอยเดินทางเข้ามาเที่ยวที่มาเก๊า หลังจีนยกเลิกนโยบายลดโรคโควิด-19 เหลือศูนย์เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีนยังไม่มากเท่าที่ควร

           ด้านนายเดวิด กรีน ที่ปรึกษาด้านธุรกิจคาสิโนของบริษัทแห่งหนึ่งของมาเก๊า ระบุว่า การยกเลิกบ่อนคาสิโน เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องจาก ทำรายได้จำนวนมากให้กับรัฐในแต่ละปี แต่มาเก๊าจะต้องหาทางลดความเสี่ยงทางธุรกิจโดยการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวในด้านอื่นๆในระยะยาว ซึ่งนอกจากธุรกิจบ่อนคาสิโนแล้ว นักท่องเที่ยวจีนให้ความสนใจกับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในมาเก๊าเช่น  แหล่งโบราณสถาน วิหารเซนต์พอลที่เก่าแก่ ขณะเดียวกัน ร้านค้าที่ขายขนมขบเคี้ยว เช่น คุกกี้อัลมอนด์ และเนื้อวัวอบ ขายดีมาก ขณะที่พ่อค้าคนหนึ่งซึ่งมีชื่อสกุลว่า ลี กล่าวว่า ร้านของเขามีสินค้าไม่เพียงพอสำหรับขายในช่วงเทศกาลตรุษจีนเนื่องจากไม่คิดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเที่ยวที่มาเก๊า

           มาเก๊า มีประชากร 700,000 คน พึ่งพารายได้หลักจากการเปิดให้บริการบ่อนคาสิโนที่ถูกกฎหมายสำหรับนักพนันส่วนใหญ่จากประเทศจีน สร้างรายได้แต่ละปีหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นแหล่งรายได้สำหรับขับเคลื่อนเศรษฐกิจของมาเก๊ามาตลอด แต่มาเก๊าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอด 3 ปีที่แล้ว รวมถึงการล็อกดาวน์ โดยในปีที่แล้ว รายได้จากธุรกิจคาสิโนของมาเก๊า ลดต่ำเป็นสถิติใหม่คือ เพียง 42,000 ล้านปาตากามาเก๊า(หรือ 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากเดิมเคยสร้างรายได้สูงกว่าธุรกิจบ่อนคาสิโนในนครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯกว่า 6 เท่า

#มาเก๊า

#แผนพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

#กระจายรายได้ทางเศรษฐกิจ