กทม.-ปริมณฑล ฝุ่น PM2.5 กระทบสุขภาพ 36 พท. สะสมเพิ่มขึ้นถึง 25 ม.ค.

23 มกราคม 2566, 08:56น.


          ข้อมูลคุณภาพอากาศจากแอปพลิเคชัน Air4Thai รายงานสรุปค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ช่วงเช้า 07.00 น.วันนี้ 23 ม.ค.66



-กรุงเทพฯและปริมณฑล สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 สะสมมากที่สุด อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 36 พื้นที่ ระดับ 34-68 มคก./ลบ.ม. ค่ามาตรฐาน PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.



-ภาคเหนือ สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 4 พื้นที่ 21-71 มคก./ลบ.ม.



-ภาคกลางและภาคตะวันตก สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 4 พื้นที่ ระดับ 25-68 มคก./ลบ.ม.



-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 4 พื้นที่ ระดับ 32-73 มคก./ลบ.ม.



-ภาคตะวันออก สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 พื้นที่ ระดับ 21-53 มคก./ลบ.ม.



          จังหวัดที่เกินค่ามาตรฐานรวม 17 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร พะเยา เชียงใหม่ สุโขทัย พิษณุโลก สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สมุทรสงคราม ระยอง หนองคาย นครพนม ขอนแก่น และนครราชสีมา



         คาดหมายคุณภาพอากาศ ในวันนี้ถึงวันที่ 25 ม.ค.66 ฝุ่นละอองมีแนวโน้มสะสมเพิ่มขึ้น



         ด้านศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครขอสรุปผลการตรวจวัด PM2.5  วันที่ 23 ม.ค.66 เวลา 05.00-07.00 น. (3 ชั่วโมงล่าสุด)



-ตรวจวัดได้ 31-68 มคก./ลบ.ม.



-ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 49.0 มคก./ลบ.ม.



-ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 29 พื้นที่



          เมื่อเวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 34-68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อวาน(22 ม.ค.66) ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่าเกินค่ามาตรฐาน (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 29 พื้นที่ คือ



1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 68 มคก./ลบ.ม.



2.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 67 มคก./ลบ.ม.



3.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.



4.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 64 มคก./ลบ.ม.



5.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 64 มคก./ลบ.ม.



6.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 58 มคก./ลบ.ม.



7.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 58 มคก./ลบ.ม.



8.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 58 มคก./ลบ.ม.



9.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.



10.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.



11.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.



12.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.



13.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.



14.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.



15.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.



16.เขตบางบอน ใกล้ตลาดสุขสวัสดี : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.



17.สวนหนองจอก เขตหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.



18.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.



19.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.



20.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.



21.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.



22.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.



23.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.



24.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.



25.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.



26.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.



27.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.



28.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.



29.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.



             ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)



            ตั้งแต่ช่วงวันที่ 20 - 26 ม.ค. 66 คาดว่าอากาศไม่ยกตัว อัตราการระบายอ่อน/ไม่ดี (น้อยกว่า2,000-4,000m2/s) (ยกเว้นวันที่ 24 ม.ค.66 และ 25 ม.ค.66 อัตราการระบายอากาศดี) และอากาศปิดใกล้บริเวณผิวพื้น กับมีฝนบางพื้นที่ในวันที่ 24 ม.ค.66 และ 25 ม.ค.66 ส่งผลให้การสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 ยังทรงตัว และวันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น



          ช่วงวันที่ 23-24 ม.ค.66 และ 27-28 ม.ค.66 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจาก สภาพอากาศที่นิ่ง และปิด ประกอบกับมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เข้ามา โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่พื้นที่ กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้





#ฝุ่นPM



CR:กรุงเทพมหานคร 



 

ข่าวทั้งหมด

X