ทางการกรุงโซล เผยแพร่ผลการสำรวจพบว่าประมาณร้อยละ 4.5 ของประชากรวัยหนุ่มสาวในกรุงโซล ‘ตัดขาดการเชื่อมต่อสังคม’ ซึ่งหลายคนอ้างถึงความยากลำบากในการหางาน และปัญหาสุขภาพส่วนตัว
โดยในกลุ่มตัวอย่าง 5,513 คนที่มีอายุระหว่าง 19 ถึง 39 ปี มีอยู่ร้อยละ 4.5 ที่สามารถเรียกได้ว่า ‘โดดเดี่ยว’ หรือ ‘สันโดษ’ เมื่อพิจารณาจากคำนิยามถึงผู้ที่แยกตัวทางอารมณ์หรือร่างกายออกจากสังคมส่วนใหญ่เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน และ คำว่า ‘สันโดษ’ เป็นคำจำกัดความที่แคบลงของผู้ที่ไม่ได้ทำงานและไม่ค่อยได้ออกจากบ้านเป็นเวลา 6 เดือน
จากตัวเลขนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าจะมีคนหนุ่มสาวมากถึง 129,000 คนทั่วเมืองและ 610,000 คนทั่วประเทศที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว
ประมาณร้อยละ 28.5 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาเก็บตัวเป็นเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว
สาเหตุที่ใหญ่ที่สุดของความโดดเดี่ยวและปลีกตัวคือ การหางานยากหรือตกงาน ร้อยละ 45.5
รองลงมาคือ ปัญหาด้านจิตใจ ร้อยละ 40.9
การสื่อสารและการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นลำบาก ร้อยละ 40.3
การสำรวจยังพบว่าครอบครัวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแยกตัวหรือสันโดษ เยาวชนที่แยกตัว ร้อยละ 62.1 กล่าวว่า มีสมาชิกในครอบครัวผ่านประสบการณ์ที่ยากลำบาก ในขณะเดียวกัน ร้อยละ 57.8 ระบุว่าครอบครัวของพวกเขามีปัญหาทางการเงิน และร้อยละ 57.2 ระบุว่าพวกเขาถูกรังแกจากคนที่รู้จัก
ความลำบากทางการเงินดูเหมือนจะเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากร้อยละ 64.7 ของเยาวชนที่แยกตัว มีสถานะทางสังคมและการเงินต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ร้อยละ 43.2 ระบุว่า พวกเขามีสภาพร่างกายและจิตใจที่ย่ำแย่ ทั้งมีแนวโน้มที่จะใช้ยาเพื่อรักษาสุขภาพจิต
เยาวชนที่โดดเดี่ยวประมาณร้อยละ 78.2 กล่าวว่าพวกเขารู้สึกซึมเศร้าในระดับหนึ่ง
ปัญหาสุขภาพจิตของเยาวชน ยังเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงมากขึ้นในช่วงเวลาปัจจุบัน ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของเกาหลี มีข้อเสนอแนะต่อกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการว่าควรขยายโครงการของรัฐบาลสำหรับสุขภาพจิตเยาวชนเพื่อให้พวกเขาสามาารถเข้ารับการรักษาได้มากขึ้น
การสำรวจของกรุงโซลยังแสดงให้เห็นว่าเยาวชนส่วนใหญ่ที่โดดเดี่ยวพยายามหลบหนีจากสถานการณ์ของตนเอง โดยร้อยละ 55.7 ตอบว่า ‘ใช่’ สำหรับคำถามที่ว่าพวกเขาไม่ต้องการถูกโดดเดี่ยวหรือไม่
…
#กรุงเซล
#สังคมโดษเดี่ยว