คืบหน้า 'พยาบาลอุ้ม' ประสบอุบัติเหตุระหว่างนำส่งผู้ป่วย ล่าสุดถอดท่อที่คอแล้ว-กำลังฝึกยืน

             ความคืบหน้าการรักษาอาการบาดเจ็บของ “พยาบาลอุ้ม” น.ส.ปุณยวีร์ ศรีดวงแปง  พยาบาลของโรงพยาบาลอุ้มผาง ที่ประสบอุบัติเหตุรถพยาบาลฉุกเฉินนำส่งผู้ป่วยชนกับรถบรรทุกพ่วง บริเวณถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จนได้รับบาดเจ็บสาหัส  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 65  ซึ่งปัจจุบัน พยาบาลอุ้มยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี 

            ล่าสุด เพจเรื่องเล่าหมอชายแดน โพสต์อัปเดตอาการของพยาบาลอุ้ม หลังอุบัติเหตุผ่านไปครบ 1 ปี  ซึ่งพยาบาลอุ้มได้รับรักษาช่วงแรกที่โรงพยาบาลแม่สอด เมื่ออาการทรงตัวก็ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์  ซึ่ง นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ได้ช่วยเหลือประสานงานร่วมกับสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นต้นสังกัด  รวมทั้งสำนักพระราชวัง ได้รับพยาบาลอุ้มเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์  พระราชทานความช่วยเหลือให้กับพยาบาลอุ้มและครอบครัว   และที่สำคัญ กลุ่มบุคคลที่จะลืมไม่ได้เลย คือ  ผู้อำนวยการ คณะแพทย์ พยาบาล ทีมกายภาพบำบัด และทุกหน่วยงานของโรงพยาบาลราชวิถี  ที่ดูแลพยาบาลอุ้มเป็นอย่างดี

            ทางเพจ ระบุว่า ตอนนี้พยาบาลอุ้มถอดท่อที่คอ (Tracheostomy) ได้แล้วสามารถหายใจได้เองเป็นปกติ  ได้รับการใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจ เนื่องจากหัวใจเต้นช้าอันเนื่องมาจากความผิดปกติของสมอง  ยังกินอาหารทางสายยาง  ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงใบหน้าสวยงามแบบในรูป  สามารถขยับร่างกายด้านขวาได้ ทำตามคำสั่งง่ายๆได้เช่น ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้และกำลังฝึกยืน  นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเพราะในวันที่เกิดอุบัติเหตุนั้น  หลายคนคิดว่าพยาบาลอุ้มมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก หรืออาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา   

            แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย ทั้งเรื่องการรักษาและการบริจาคทรัพย์ช่วยเหลือ ผ่านบัญชีธนาคารกลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผาง  โดยตั้งเป็นกองทุนใช้ชื่อว่า  “กองทุนพี่ช่วยน้อง”  มีการแต่งตั้งกรรมการ ได้แก่ หัวหน้าพยาบาล หัวหน้าฝ่ายต่างๆ และมีบิดา มารดาร่วมเป็นกรรมการ  เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาวของพยาบาลอุ้ม   โดยตั้งแต่เปิดรับเงินช่วยเหลือ จนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2565 เป็นเงินจำนวน 1,631,587.81 บาท   เงินในส่วนนี้ได้ใช้จ่ายสำหรับการดูแลรักษา ค่าเดินทางและค่าที่พักของครอบครัวในการไปเฝ้าไข้ และไว้ใช้จ่ายระยะยาว  โดยทางโรงพยาบาลอุ้มผางได้เตรียมทำห้องเพื่อดูแลพยาบาลอุ้ม  หากเดินทางกลับภูมิลำเนาในอนาคต  จึงอัปเดตเรื่องราวการต่อสู้ตลอด 1 ปี ของพยาบาลอุ้ม เพื่อให้ทุกคนได้ทราบความเคลื่อนไหวและมาร่วมเป็นกำลังใจให้พยาบาลอุ้ม โดยหากพร้อมเมื่อไหร่ พยาบาลอุ้มคงได้มาพบปะทุกคนด้วยตัวเอง เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยที่กำลังท้อแท้เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของตัวเอง

cr : เรื่องเล่าหมอชายแดน

#พยาบาลอุ้ม