ให้ประกันตัว 'เม พรีมายา' 1 แสนบาท เตรียมประสานมอบตัวอีก 4 ราย

           ความคืบหน้าหลังศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์  หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา)  ในข้อหาโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน  หลังจากนั้นตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านและบริษัทแต่ไม่พบตัว เม พรีมายา  จนกระทั่ง เมื่อวานนี้ เม พรีมายา เข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยยืนยันว่า กรณีโพสต์ข้อความลงทุน 6,000 บาท แล้วได้ผลตอบแทน 15 ล้านบาทภายใน 3 เดือนนั้น  ไม่ใช่คำโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ได้มีการสร้างเรื่องหรือหลอกลวงและทำธุรกิจด้วยความสุจริต

            นอกจากนี้ เมื่อคืนวันที่ 18 ม.ค.66 น.ส.มณีนุช เทียนสว่าง อายุ 27 ปี น้องสาวของเม พรีมายา  ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้อีกรายในความผิดเดียวกัน ถูกตำรวจ ตม. จับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมขึ้นเครื่องเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ด้วย

           ล่าสุด มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเม พรีมายา พร้อมพวก รวม 5 คน โดยสอบปากคำในหลายประเด็น  โดยเฉพาะการทำธุรกิจ,การได้มาซึ่งผลกำไร,การออกแคมเปญในลักษณะชวนเชื่อ,รวมถึงประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 8 ชม. รายงานข่าวระบุว่า ซีอีโอสาวให้การภาคเสธ  พร้อมยื่นขอประกันตัวในขั้นสอบสวน  ซึ่งพนักงานสอบสวนจะพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้วางเงินสด 100,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ประกัน และมีรายงานว่าในวันนี้จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งร่วมกันโพสต์ข้อความเชิญชวน จนเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับ จะประสานเข้ามอบตัวกับตำรวจไซเบอร์อีก 4 ราย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.รัชนันท์ เมืองประเทศ สาวที่ถ่ายรูปคู่รถหรูในโชว์รูมรถ ซึ่งเป็นลูกข่ายคนสนิทของ “เม พรีมายา”

            ขณะที่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 11 หมาย และจับกุมได้ 5 คนแล้ว ที่เหลือจะเร่งจับกุมให้ครบภายในสัปดาห์นี้ หนึ่งในนั้นมีคนทำหน้าที่เป็นหน้าม้าที่เป็นต้นโพสต์ เชิญชวนมาลงทุน จนทำให้แบรนด์พรีมายาโด่งดัง ซึ่งตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์และบัญชีธนาคารมาตรวจสอบว่าเป็นการหลอกลงทุนเกินจริงหรือไม่

           ขณะที่รายงานการเสียภาษีของบริษัทก็ไม่ได้สอดคล้องกับผลกำไรที่โฆษณา แต่เบื้องต้นแจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อน ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม ว่าลงทุนได้กำไรตามคำโฆษณาจริงหรือไม่ เป็นการลงทุนในลักษณะหลอกลวงหรือไม่ ขณะที่แฟนหนุ่มของเม ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะไม่ใช่ผู้โพสต์ชักชวนลงทุน ส่วนหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลตรวจสอบเพจชักชวนลงทุนอื่นๆ ที่มีลักษณะชวนลงทุนเกินจริงเพิ่มเติม

          ส่วนที่มีการแชร์เรื่องจะมอบรางวัลนำจับ 5 แสนบาท ให้ผู้แจ้งเบาะแสจับ เม  พรีมายา  ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการตั้งรางวัลนำจับดังกล่าว แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเฟกนิวส์

#เมพรีมายา