กบง.ตรึงราคา LPG ถึง 28 กุมภาพันธ์ และให้ลดค่าไฟฟ้าเฉพาะผู้ใช้ไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน

          นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง.วานนี้ (18 ม.ค.66) เห็นชอบตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ต่ออีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จากเดิมสิ้นสุดการตรึงราคา 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในสิ้นเดือนมกราคมนี้ และ ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบางที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน สำหรับค่าไฟฟ้าเดือนมกราคม-เมษายน 2566 (จากที่งวดที่ผ่านมา มีการช่วยเหลือครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน )

          โดยในงวดเดือนมกราคม - เมษายน ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ประเภทบ้านที่อยู่อาศัย อยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย และ กบง.มีมติมีส่วนลดในรายละเอียดดังนี้

          จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ 1-150 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์/หน่วย

          จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ 151-300 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 67.04 สตางค์/หน่วย

          ประเมินว่ามาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้จะมีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 19 ล้านราย และคาดว่าจะใช้วงเงินช่วยเหลือประมาณ 7,500 ล้านบาท จากงบประมาณแผ่นดิน และงบที่ได้รับการจัดสรรโดยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ระเบียบและขั้นตอน เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป

          สำหรับสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ของตลาดโลก ยังคงผันผวนตามราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งอาจกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซ LPG ของโลก นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตามาตรการต่างๆ ที่หลายประเทศทั่วโลกอาจออกมาควบคุมผู้เดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายหลังจากที่จีนประกาศเปิดประเทศ เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม ซึ่งอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีความไม่แน่นอน

          โดย ณ วันที่ 16 มกราคม 2566 ราคา LPG นำเข้าอยู่ที่ 698 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เทียบได้กับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ประมาณ 450 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในขณะที่ราคาขายปลีก LPG ในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 813 ล้านบาทต่อเดือน และฐานะกองทุนบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 44,794 ล้านบาท ซึ่งจะเข้าใกล้กรอบวงเงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ที่ให้ติดลบได้ไม่เกิน 48,000 ล้านบาท

          ที่ประชุม กบง.จึงได้มีการพิจารณาทบทวนแนวทางการกำหนดราคา LPG  เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ขณะเดียวกันยังคงต้องคำนึงถึงสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย ที่ประชุม จึงได้มีมติดังนี้

(1) เห็นชอบให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมต่อไปอีก 1 เดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 -28 กุมภาพันธ์ 2566

(2) ปรับราคาขายปลีก LPG เพิ่มอีก 15 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในเดือนมีนาคม โดยจะปรับเป็นราคาขายปลีก 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลตั้งแต่ 1-31 มีนาคม 2566 ทั้งนี้ที่ประชุม กบง.ได้มอบหมายให้ สนพ.ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป

...

#ก๊าซLPG

#ค่าไฟฟ้า

#กบง