เจ้าหน้าที่ชุดกจับกุมของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปราม จับกุม น.ส.ศุภาจรีย์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลกที่ จ.334/2565 ลงวันที่ 7 กันยายน 2565 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถกองบังคับการปราบปราม แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
โดยมีพฤติการณ์คือ คนร้ายได้ประกาศขายพระเครื่องหลวงพ่อโสธร รุ่นประวัติศาสตร์ 80 ปีกรมตำรวจผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เมื่อผู้เสียหายเห็นและมีความสนใจต้องการซื้อ จึงติดต่อคนร้ายไปและตกลงซื้อพระเครื่องในราคา 20,000 บาท หลังจากที่โอนเงินเข้าบัญชีชื่อ น.ส.ศุภาจรีย์ฯ จำนวน 20,000 บาท คนร้ายก็บล็อกเฟซบุ๊กผู้เสียหายแล้วหนีไป ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.วัดโบสถ์ และดำเนินการจนศาลได้ออกหมายจับ
จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่าบัญชีชื่อ น.ส.ศุภาจรีย์ฯ เป็นบัญชีรับเงินของกลุ่มเครือข่ายหลอกลงทุนปั่นยอดซื้อขายสินค้า ที่หลอกให้ลงทุนซื้อสินค้าที่ไม่มีอยู่จริง เพื่อให้ร้านค้ามียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ยิ่งทำภารกิจสั่งซื้อมาก ยิ่งได้รับเงินตอบแทนมาก แต่เมื่อต้องการถอนเงินจะไม่สามารถทำได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ศุภาจรีย์ฯ หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัว จนสามารถจับกุมในที่สุด และจะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วัดโบสถ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีจริง โดยได้รับค่าจ้างบัญชีละ 1,000 บาท แล้วนำข้อมูลบัญชีให้แฟน เพื่อส่งต่อไปให้หัวหน้าซึ่งเป็นผู้หญิงอาศัยอยู่แถบชายแดนไทยติดปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่ง น.ส.ศุภาจรีย์ฯ เคยเอาสมุดบัญชีไปอัปเดต พบว่ามียอดเงินเข้าออกในบัญชีกว่า 1 ล้านบาท
...
#บัญชีม้า
#ตำรวจสอบสวนกลาง
แอตต้า แนะรัฐเร่งฟื้นความเชื่อมั่น ด้านความปลอดภัยและเป็นธรรม ให้นทท.แก้ข่าวลบไม่ให้ขยายวงกว้าง
สมเด็จพระสังฆราช ทรงล้มขณะทรงพระดำเนิน แพทย์วินิจฉัยไม่มีพระอาการอันเป็นที่น่าวิตก
บริษัทนาฬิกาสวิสขออภัย หลังแพร่โฆษณาแสดงท่าตาตี่ ชาวเน็ตจีนไม่พอใจ
ข่าวทั้งหมด
