กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น รายงานการขาดดุลการค้า 19.97 ล้านล้านเยน หรือราว 155,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2565 นับเป็นการขาดดุลการค้าสูงที่สุดนับปี 2557 สืบเนื่องจากค่าเงินเยนร่วงต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินดอลลาร์ซื้อขายเฉลี่ย 130.77 เยนในปีที่แล้ว เพิ่มจากปี 2564 ร้อยละ 19.5 ทั้งสินค้าในหมวดพลังงาน เช่น น้ำมันดิบ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ตลอดถึงราคาวัตถุดิบ มีราคาแพงขึ้น หลังรัสเซียบุกยูเครน
การนำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นในรูปของเงินเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.2 รวมมูลค่า 118.16 ล้านล้านเยนในปีที่แล้ว ขณะที่การส่งออกเติบโตร้อยละ 18.2 รวมมูลค่า 98.19 ล้านล้านเยน โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์และโลหะเพิ่มขึ้น
สำหรับการค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้าเป็นปีที่สองติดต่อกัน รวมมูลค่า 6.54 ล้านล้านเยน เป็นผลจากการส่งออกรถยนต์และเครื่องจักรกลเพิ่มร้อยละ 23.1 รวมมูลค่า 18.26 ล้านล้านเยน ขณะที่การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเพิ่มร้อยละ 31.5 รวมมูลค่า 11.72 ล้านล้านเยน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำพวกยาและเวชภัณฑ์
สำหรับการค้ากับจีน ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ขาดดุลการค้าจีนกว่า 5.83 ล้านล้านเยน โดยนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มร้อยละ 21.8 รวมมูลค่า 24.83 ล้านล้านเยน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำพวกเสื้อผ้า เครื่องสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ขณะที่การส่งออกของญี่ปุ่นไปจีน เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 5.7 รวมมูลค่า 19.01 ล้านล้านเยน
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ารวม 2.02 ล้านล้านเยนให้กับกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เป็นการขาดดุลการค้าเป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน
#ญี่ปุ่น
#ขาดดุลการค้า
#เศรษฐกิจ