ราคาน้ำมันขยับลงราว 1% และหุ้นวอลล์สตรีท ปิดลบ ในวันพุธ(18 ม.ค.66) จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ลดลง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวเข้าสู่ภาวะถดถอย
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค.65 ลดลง 0.7% หลังจากเมื่อเดือนพ.ย.65 ปรับตัวลดลง 0.6% ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
การผลิตของภาคโรงงานเดือน ธ.ค.65 ดิ่งลง 1.3% ขณะที่ นักวิเคราะห์ คาดว่า ลดลงเพียง 0.3% หลังจากเมื่อเดือน พ.ย.65 ลดลง 1.1%
ส่วนการผลิตในภาคเหมืองแร่ เดือน ธ.ค.65 ลดลง 0.9% ขณะที่ ภาคสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 3.8%
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.พ.66 ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 79.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมี.ค.66 ลดลง 94 เซนต์ ปิดที่ 84.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
*น้ำมันที่ตลาดสิงคโปร์ ขึ้น 31เซนต์ ปิดที่ 115.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พบว่า ยอดค้าปลีกและดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม ลดลงเกินคาดหมายในเดือนธันวาคม 2565 ทำให้ราคาน้ำมันและหุ้นวอลล์สตรีท ปิดตลาดปรับตัวลดลงเช่นกัน
นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินไอเอ็นจี กล่าวว่า ตลาดน้ำมันเคลื่อนไหวตามการอ่อนแอของยอดค้าปลีก การดิ่งลงอย่างมากของการผลิตภาคอุตสาหกรรม และข่าวเกี่ยวกับการปลดพนักงานเพิ่มเติม ซ้ำเติมความกังวลว่าสหรัฐฯอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดัชนี S&P 500 และดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 2% ซึ่งเป็นการร่วงลงรายวันมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน
-ดาวโจนส์ ลดลง 613.89 จุด (1.81% ) ปิดที่ 33,296.96 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 62.11 จุด (1.56%) ปิดที่ 3,928.86 จุด
-แนสแดค ลดลง 138.10 จุด (1.24%) ปิดที่ 10,975.01 จุด
ส่วนราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนก.พ.66 ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,907.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#ยอดค้าปลีกสหรัฐฯลดลง
#น้ำมันลดลง
#หุ้นสหรัฐฯร่วง
แฟ้มภาพ