สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนธ.ค. 65 อยู่ที่ระดับ 92.6 ลดลงจากเดือนพ.ย.65 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 93.5 โดยเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน จากปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ ภาคการผลิตชะลอลง เนื่องจากเดือนธ.ค.65มีวันทำงานน้อย และมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่, ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นโดยเฉพาะค่าไฟฟ้า, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์, ปัญหาเงินเฟ้อที่บั่นทอนกำลังซื้อในประเทศ และการส่งออกที่มีสัญญาณชะลอตัว
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยกิจกรรมต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้การขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ ทั้งการบริโภค และการท่องเที่ยวกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้า แม้จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่การใช้ประโยชน์จากกรอบความตกลงการค้าเสรี (FTA) ควบคู่กับการที่ภาครัฐเร่งเจรจา ความตกลงการค้าเสรี เพื่อเปิดตลาดส่งออกใหม่ๆ จะช่วยประคับประคองการส่งออกของไทยให้ยังทรงตัวต่อไปได้
เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.09/10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.01 บาท/ดอลลาร์
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,681.04 จุด ลดลง 3.82 จุด (-0.23%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 54,484 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 825.17 ลบ. (SET+MAI)
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งในวันนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากการที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อคืนวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้และพรุ่งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 26,138.68 จุด พุ่งขึ้น 316.36 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ หลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในปี 2565 เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2565 ของจีนขยายตัว 3% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีการขยายตัว 8.4% ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดตลาดที่ระดับ 21,577.64 จุด ลดลง 169.08 จุด