ในโอกาสเปิดประชุมเวทีสภาเศรษฐกิจโลก หรือ เวิล์ด อิโคโนมิก ฟอรั่ม(World Economic Forum-WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ นางกาเบรียลา บุชเชอร์ กรรมการบริหารของอ็อกซ์แฟม (Oxfam) องค์กรการกุศลที่ทำงานเพื่อยุติความยากจนของอังกฤษ เปิดเผยผลศึกษาใหม่ชื่อว่า ความอยู่รอดของคนที่ร่ำรวยที่สุด(Survival of The Richest)ว่า มหาเศรษฐีอินเดีย ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 1 ของประชากร 1.41 พันล้านคนครอบครองความมั่นคั่ง หรือมีทรัพย์สินรวมร้อยละ 40.5 ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
พร้อมเสนอแนะให้รัฐมนตรีคลังอินเดียเก็บภาษีความมั่งคั่ง (wealth tax) จากบรรดามหาเศรษฐีโดยใช้วิธีปรับโครงสร้างภาษีแบบก้าวหน้า (Progressive) กล่าวคือ การจัดเก็บภาษีหรือสัดส่วนภาษีต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำทางรายได้ที่กว้างขึ้นเรื่อยๆระหว่างคนรวยกับคนจน ทั้งในปัจจุบัน คนจนและคนชั้นกลางเสียภาษีมากกว่าคนรวย
อ็อกซ์แฟม ระบุว่าในปัจจุบัน ร้อยละ 64 ของภาษีสินค้าและบริการ(goods and services tax (GST) มาจากคนจนและชนชั้นกลางที่อยู่ระดับล่าง ร้อยละ 50 ของประชากรทั้งประเทศ ขณะเดียวกัน ร้อยละ 4 ของ ภาษี GST มาจากคนรวย ร้อยละ 10 หรือจากระดับบนสุดของสังคม นอกจากนี้ ในปัจจุบัน คนรวยได้ประโยชน์จากมาตรการลดภาษีนิติบุคคล การยกเว้นภาษีและรายได้อื่นๆด้วย
สำหรับรูปแบบการกระจายความมั่นคงจากรายได้ของรัฐจากภาษี เช่น ร้อยละ 2 จากภาษีความมั่งคั่งที่เก็บจากมหาเศรษฐีทั้งหมดของอินเดียจะนำมาใช้สนับสนุนโครงการส่งเสริมโภชนาการสำหรับคนที่ขาดแคลนอาหารเป็นระยะเวลา 3 ปี ร้อยละ 1 ของภาษีจะนำไปสนับสนุนโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติของอินเดียเป็นเวลากว่า 1.5 ปี
นอกจากนี้ การเก็บภาษีมหาเศรษฐกิจชั้นนำ 100 คนของอินเดียที่มีมูลค่าทรัพย์สินหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไปในอัตราร้อยละ 2.5 หรือเก็บภาษีจากมหาเศรษฐีชั้นนำ 10 คนของอินเดียในอัตราร้อยละ 5 จะได้เงินภาษีมากพอที่จะส่งเสริมให้เด็ก 150 ล้านคนมีโอกาสเข้าโรงเรียน
ผลศึกษาของอ็อกซ์แฟม ระบุว่าในปี 2565 จำนวนมหาเศรษฐีของอินเดียที่มีทรัพย์สินรวมอย่างน้อยหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไปเพิ่มเป็น 166 คน จาก 102 คนในปี 2563 ขณะเดียวกัน คนยากจนในอินเดียไม่มีเงินสำหรับใช้จ่ายซื้อสินค้าที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตประจำวัน รายงานนี้สะท้อนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านปัญหาการกระจายความมั่นคงในอินเดีย ระบุว่า กว่าร้อยละ 40 ของความมั่นคงที่สร้างขึ้นในประเทศระหว่างปี 2555-2564 กระจุกอยู่ในกลุ่มคนรวยเพียงร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมดของอินเดีย ขณะที่ความมั่นคงเพียงร้อยละ 3 กระจายไปสู่คนชนกลางถึงมือของคนยากจนอีกร้อยละ 50 ที่อยู่ในระดับล่างของสังคม
ในปี 2565 ทรัพย์สินของนายโกตัม อดานี คนที่ร่ำรวยมากที่สุดของอินเดียเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 ขณะเดียวกัน มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด 100 คนของอินเดียมีทรัพย์สินรวมมูลค่า 660,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก จัดอันดับในปีที่แล้ว นายอดานี ร่ำรวยอันดับที่สองของโลก มีทรัพย์สินรวม 147,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทสเปซเอ็กซ์และบริษัทเทสลาของสหรัฐฯ ซึ่งมีทรัพย์สินรวม 264,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
#อินเดีย
#ภาษีความมั่นคง
#ความเหลื่อมล้ำทางรายได้