ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ร่วมกันแถลงผลการบุกตรวจค้นคลินิกหรูย่านเกษรทาวเวอร์ ตรวจยึดยาเถื่อน 252 รายการ มูลค่าของกลางกว่า 5,977,000 บาท
คดีนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจาก อย. ให้ตรวจสอบคลินิกชื่อดัง ที่เปิดให้บริการทางเวชกรรม,กายภาพบำบัด, แพทย์แผนไทยประยุกต์ และการพยาบาล ในลักษณะเพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ และมุ่งเน้นให้บริการชาวต่างชาติในลักษณะขายคอร์สต่อเนื่อง ในราคาสูง 1,000 - 2,000,000 บาท คลินิกดังกล่าวมียานำเข้า และยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ซึ่งมีทั้งกลุ่มยาฉีด ยารับประทาน อาหารเสริมที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีการผสมยาอันตรายในอาหารเสริม โดยเสนอโปรแกรมการรักษารูปแบบต่าง ๆ เช่น การดีท็อกซ์สารพิษ, การชะลอวัยด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และการฉีดวิตามินเพื่อบำรุงตับและสมองให้หายจากอาการเจ็ทแล็ก เพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ให้รู้สึกสดชื่นและมีสมาธิ ฯลฯ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่แฝงตัวไปตรวจสอบ พบว่า คลินิกเปิดให้บริการ และมีชาวต่างชาติมารับบริการเป็นจำนวนมาก
ต่อมาในวันที่ 9 ม.ค.66 ตำรวจ ปคบ.และเจ้าหน้าที่ อย.จึงนำหมายค้นศาลแขวงปทุมวัน เข้าตรวจค้นคลินิกดังกล่าว และยึดของกลางเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา จำนวน 144 รายการ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร จำนวน 108 รายการ รวมตรวจยึดของกลาง 252 รายการ มูลค่าของกลาง 5,977,000 บาท
เภสัชกร วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า คลินิกแห่งนี้ได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการ แต่ยาที่ใช้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ทั้งรูปแบบยาฉีดและยารับประทาน นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่มีเลขสารบบอาหาร ฉลากไม่ระบุสถานที่ผลิตยา ไม่มีเลขทะเบียนตำรับยา ไม่ระบุวันที่ผลิตยา และไม่มีข้อมูลการศึกษาความคงสภาพ (Stability Data) ของยา พฤติการณ์ของคลินิกดังกล่าว จะเน้นรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ โดยจะให้ผู้เข้ารับบริการตรวจเลือดก่อน จากนั้นนำเลือดไปตรวจวิเคราะห์ แล้วจึงเสนอขายคอร์ส หรือขายยาให้ลูกค้าโดยอ้างว่า ไม่มีขายในประเทศไทย มีเฉพาะคลินิกนี้เท่านั้น
เจ้าหน้าที่จึงออกหมายเรียกกรรมการบริษัท มารับทราบข้อกล่าวหา คือ
1.ขายยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยาโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.จำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
ในส่วนแพทย์ที่มีชื่อเป็นผู้ดำเนินการในคลินิกดังกล่าว มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานไม่จัดให้มีเครื่องมือเครื่องใช้ ยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลฯ ตามชนิดที่กำหนดในกฎกระทรวง โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ตรวจยึดมาจะมีการส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากตรวจพบว่ามีการผสมยาอันตรายลงไปในอาหาร จะมีความผิดฐานจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าหน้าที่เตือนว่า ยาที่จ่ายให้คนไข้ ควรต้องเป็นยาที่มีมาตรฐานการผลิตยาที่ดีหรือ GMP โดยเฉพาะยาฉีดต้องเป็นยาปราศจากเชื้อ และมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้ยาที่ปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ หรือเชื้อก่อโรคคลินิกเวชกรรมต่างๆ จะต้องเลือกใช้ยาที่ผ่านการขึ้นทะเบียนตำรับยา จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเท่านั้น และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จำหน่ายต้องมีเลขสารบบอาหารด้วยเช่นกัน สำหรับประชาชน ควรศึกษาข้อมูลคลินิกแพทย์ ยาที่ใช้ รวมถึงขั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการ โดยผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย.ได้ที่ www.fda.moph.go.th หากพบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย. 1556
#ยาเถื่อน
CR:ภาพ Police TV by UCI Media