เนปาล ประกาศไว้อาลัยผู้เสียชีวิตเครื่องบินตก เลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปี เหตุสายการบินเยติ แอร์ไลนส์ ของเนปาล ตกในเขตพื้นที่ป่าของเมืองโปขรา ทางภาคกลางของประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ 15 ม.ค.66
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเดินทางจากกรุงกาฐมาณฑุไปยังเมืองโปขรา ก่อนประสบอุบัติเหตุตกขณะที่เครื่องบินกำลังพยายามร่อนลงจอดที่สนามบินโปขรา จนเครื่องบินเกิดไฟไหม้และแยกออกเป็นเสี่ยงๆ จุดเกิดเหตุ อยู่บริเวณแม่น้ำเซติ ห่างจากสนามบินโปขราประมาณ 1.5 กิโลเมตร
CNN รายงานว่า นายปุษปกมล ทาหาล นายกฯ เนปาล กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่น่าเศร้าใจที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันค้นหาคนที่เหลือทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หน่วยงานทั้งหมดของรัฐบาลและประชาชนทั่วไปให้เริ่มการช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ
โฆษกสำนักนายกฯ รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์(16 ม.ค.66)เป็นวันหยุดราชการเพื่อไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต
นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียและนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ต่างกล่าวแสดงความเสียใจ เช่นเดียวกับเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำเนปาล
สายการบินเยติ แอร์ไลนส์ ของเนปาล ยกเลิกเที่ยวบินปกติทั้งหมดในวันนี้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต
ความคืบหน้าการค้นหา พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 68 ราย เจ้าหน้าที่รัฐบาล ระบุว่า เป็นเหตุเครื่องบินตกที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของประเทศในรอบกว่า 30 ปี เครื่องบินลำนี้มีผู้โดยสาร 68 คน ลูกเรือ 4 คน รวมคนบนเครื่อง 72 คน โทรทัศน์ท้องถิ่นแสดงให้เห็นกลุ่มควันดำหนาทึบจากจุดที่เครื่องบินตก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันรอบซากเครื่องบิน
โฆษกกองทัพรัฐบาลเนปาล รายงานว่า เจ้าหน้าที่เผชิญเหตุหลายร้อยคน เร่งค้นหาคนที่อยู่บนเครื่องจนถึงช่วงค่ำวานนี้และเช้านี้จะค้นหาต่อเนื่องอีก 4 คนที่ยังหาไม่เจอ รายงานเบื้องต้นจากสำนักงานการบินพลเรือนของเนปาล ระบุว่า 1 ในผู้เสียชีวิตมีทารกอย่างน้อย 1 ราย
สุดาจันทร์ บาร์ทัวลา โฆษกสายการบินเยติ แอร์ไลนส์ ของเนปาล เปิดเผยรายละเอียดสอดคล้องกับหน่วยงานด้านการบินพลเรือนว่า ทั้ง 72 คนบนเครื่องบินที่เกิดเหตุ มีทารก 2 คน ลูกเรือ 4 คน และชาวต่างชาติ 15 คน แบ่งเป็น อินเดีย 5 คน รัสเซีย 4 คน เกาหลีใต้ 2 คน ไอริช 1 คน ออสเตรเลีย 1 คน ฝรั่งเศส 1 คน อัฟกานิสถาน 1 คน
ข้อมูลของเครือข่ายความปลอดภัยการบิน รายงานว่า เมื่อเดือนพ.ค.65 เที่ยวบินของ Tara Air ซึ่งบรรทุกคน 22 คน ชนเข้ากับภูเขาหิมาลัยที่ระดับความสูงประมาณ 14,500 ฟุต เป็นเครื่องบินตกครั้งที่ 19 ของประเทศในรอบ 10 ปี และเป็นครั้งที่ 10 ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกัน ตามฐานข้อมูลของเครือข่ายความปลอดภัยการบิน
อุตสาหกรรมการบินของเนปาลมีผู้ใช้บริการมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยให้บริการทั้งการบรรทุกสินค้าและการเดินทางไปในพื้นที่ที่ยากจะเข้าถึง แต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย เนื่องจากนักบินขาดการฝึกอบรมและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ที่ยังไม่เพียงพอ ขณะที่สนามบินหลายแห่งของเนปาลมีรันเวย์ที่ยุ่งยากที่สุดในโลก ทั้งยังมีปัญหาเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา สภาพอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อันตรายในการทำการบิน
#เนปาล
#เครื่องบินตก
CR:Reuters,CNN
สหราชอาณาจักรเตรียมรับรักษาผู้ป่วยเด็กกลุ่มแรกจากกาซา ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
...
แอตต้า แนะรัฐเร่งฟื้นความเชื่อมั่น ด้านความปลอดภัยและเป็นธรรม ให้นทท.แก้ข่าวลบไม่ให้ขยายวงกว้าง
...
สมเด็จพระสังฆราช ทรงล้มขณะทรงพระดำเนิน แพทย์วินิจฉัยไม่มีพระอาการอันเป็นที่น่าวิตก
...
ข่าวทั้งหมด
