DSI เรียกผู้บริหารสถานบันเทิงย่านทองหล่อสอบปากคำ เชื่อมโยงคดีฟอกเงิน

          หลังพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ขยายผลสืบสวนจากมูลฐานความผิดเกี่ยวกับขบวนการฟอกเงิน ยาเสพติด การพนันออนไลน์ ซึ่งศูนย์คดียาเสพติด ได้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษที่ 288/2565 พบว่ามี 1 ในผู้ต้องหารายสำคัญที่ดีเอสไอจับกุมได้มีพฤติการณ์การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส จำนวนหลายสิบล้านบาท จึงเป็นเหตุให้ดีเอสไอดำเนินการออกหมายเรียกให้นายพันธ์ธวัช เข้าให้ปากคำในสถานะพยานในวันที่ 13 ม.ค.66 ขณะที่ดีเอสไอออกหมายเรียกกว่า 65 รายแล้ว ในจำนวนนี้มีจำนวน 7 คน เบื้องต้นออกหมายเรียกในฐานะพยาน โดยในวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค.66) เวลาประมาณ 10.00 น. พยานปากสำคัญของขบวนการฟอกเงิน จะเข้าให้ปากคำ

          รวมทั้งได้ออกหมายเรียกให้ผู้บริหารกิจการสถานบันเทิงชื่อดังย่านทองหล่อ จำนวน 2 ราย เข้าพบเนื่องจากพบหลักฐานสำคัญว่ามีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึง รวมทั้งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันกับขบวนการกับกลุ่มผู้ต้องหาฟอกเงินที่ถูกดีเอสไอจับกุม ซึ่งสถานบันเทิงร้านดังกล่าว มีดีเจชื่อดังเป็นเจ้าของ ซึ่งจะต้องเข้าให้ปากคำในฐานะพยานในวันที่ 19 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น. เพราะมีข้อมูลดีเจคนดังอาจเป็นนอมินีหรือหุ้นส่วนให้กับ 1 ในพยาน 7 รายที่ดีเอสไอออกหมายเรียกไปก่อนหน้านี้

          คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด ต้องการให้ดีเจดังเข้ามาชี้แจงถึงความเกี่ยวข้องและสอบถามว่ามีบทบาทอย่างไร เพราะคณะทำงานมีข้อมูลเชิงลึกด้วยว่าผู้ต้องหาในขบวนการฟอกเงินที่ดีเอสไอจับกุมได้ คือ นายทุนที่แท้จริงและอยู่เบื้องหลัง ซึ่งพฤติการณ์ของคนกลุ่มนี้จะไม่ดำเนินกิจการสีเทาด้วยตัวเอง โดยจะนำเอาเงินไปให้คนที่มีชื่อเสียงดำเนินธุรกิจแทน จึงมีพยานหลักฐานปรากฏอันเชื่อได้ว่านายทุนไทยสีเทานี้นำเงินมาฟอกกับธุรกิจของดีเจรายดังกล่าว

          คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด กล่าวอีกว่า การที่ดีเอสไอไล่ติดตามจับกุมกลุ่มขบวนการฟอกเงินเหล่านี้ พบผู้กระทำผิดกฎหมายหลายรายมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับบุคคลเจ้าของธุรกิจหลายกิจการ อาทิ กองสลากพลัส ผับ บาร์ สถานบันเทิง ซุปเปอร์คาร์ โชว์รูมต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจากข้อมูลที่คณะทำงานรวบรวมขยายผลตรวจสอบย้อนหลัง 2ปี พบว่ากิจการสถานบันเทิงชื่อดังย่านทองหล่อมีจำนวนเงินหมุนเวียนภายในกิจการหลายร้อยล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่าจำนวนตัวเลขในส่วนบัญชีธนาคารของนายพันธ์ธวัช หรือ นอท กองสลากพลัส พบว่า มีมากกว่าจำนวนตัวเลข 42 ล้านบาท

#กองสลากพลัส

#ฟอกเงิน