ร้อยเอ็ด'เมาแล้วขับ'อันดับ1 กรมคุมประพฤติ ย้ำทำผิดซ้ำ ส่งฝึกงานในห้องดับจิต

          การดำเนินคดีขับรถขณะเมาสุรา นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สถิติคดีขับรถขณะเมาสุราที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ ต้อนรับวันปีใหม่ 1 ม.ค. 2566 มีจำนวน 2,666 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 2,613 คดี คิดเป็นร้อยละ 98.01 คดีขับเสพ 53 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.99 สถิติยอดรวมสะสม 4 วัน ที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2565 – 1 ม.ค. 2566 มีจำนวน 4,508 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 4,300 คดี คดีขับรถประมาท 11 คดี และคดีขับเสพ 197 คดี จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุรายอดสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ร้อยเอ็ด 255 คดี นนทบุรี 252 และ เลย 245 คดี

          เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่สี่ ของช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี 2565 จำนวน 52 คดี และ ปี 2566 มีจำนวน 2,613 คดี เพิ่มขึ้น 2,561 คดี

          อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า จากการที่มีคดีขับรถขณะเมาสุราเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องมีการเน้นย้ำมาตรการคุมเข้มสำหรับผู้กระทำผิดที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติ อาทิ รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ การเข้าร่วมกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร การลด ละ เลิกแอลกอฮอล์

          นอกจากนี้ การคุมประพฤติ ยังจำแนกความเสี่ยง หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุรา จะส่งบำบัดรักษา ณ สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข หากพบว่ามีแนวโน้มกระทำผิดซ้ำสูง จะถูกส่งไปแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระยะเวลา 3 วัน โดยใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกับการทำงานบริการสังคม เช่น เข้าศึกษาการปฏิบัติงานในห้องดับจิต การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนที่ตึกอุบัติเหตุ เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รู้ซึ้งถึงการทุกข์ทรมาน การสูญเสียสมรรถภาพจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ให้มีความปลอดภัยทางถนนมากขึ้น

#เมาแล้วขับ

#กรมคุมประพฤติ