*กกร.หารือลดเป้าหมายส่งออก/ก.เกษตรฯสนับสนุนแก้กฏหมายสหกรณ์/ตร.เปิดแอพฯฝากบ้านไว้กับตำรวจ*

ในวันที่ 9 เมษายนนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย จะหารือลดเป้าหมายส่งออก พร้อมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเสนอต่อ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี

ส่วนความคืบหน้ากรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง และศาลล้มละลายมีคำสั่งให้ดำเนินการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งนายประกิต พิลังกาสา ประธานฝ่ายทำแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า ขั้นตอนสำคัญคือการพิจารณาเลือกบริษัทที่ปรึกษาการเงิน เพื่อเข้ามาร่วมพิจารณาร่างแผนฟื้นฟู คาดว่าจะได้บริษัทที่ปรึกษาในวันที่ 9 เมษายนนี้ และในระหว่างการทำแผนฟื้นฟูช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า จะมีการเยียวยาสมาชิกสหกรณ์ 3 โครงการ ซึ่งได้ยื่นขอศาลให้พิจารณาแล้ว และขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเพื่อการทำธุรกิจของสหกรณ์

กรณีนายสมชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง เสนอให้ตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาคุมการบริหารสหกรณ์นั้น นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าในหลักการไม่ขัดข้อง และนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็มีความเห็นชอบเช่นกัน เพราะเคยหารือเรื่องนี้กับกระทรวงการคลังแล้ว เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับสหกรณ์ที่มีอยู่ไม่เข้ากับสถานการณ์

ขณะที่ นายวันชัย บุนนาค ทนายความของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ผู้ต้องหายักยอกเงินของสหกรณ์ ในวันนี้ จะยื่นเสนออุทธรณ์คำสั่งศาล และขออนุมัติประกันตัวนายศุภชัย โดยใช้หลักทรัพย์ประมาณ 3 ล้านบาท

ในเทศกาลสงกรานต์นี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ว่าได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าบ้านและทรัพย์สินจะปลอดภัย เมื่อต้องเดินทางไปท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาว นอกจากนี้ ตร.ยังเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนสำหรับการเดินทางและการใช้ถนนในทุกเส้นทาง พร้อมฝากถึงประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่และไม่ดื่มสุราขณะขับขี่

ส่วน พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่ามีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างแอพพลิเคชั่น Police I Lert You เข้ามาใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างตำรวจกับเจ้าของบ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตำรวจและเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้าน โดยทางตำรวจจะนำคิวอาร์โค้ด (QR Code) ไปแปะไว้ที่หน้าบ้านหลังที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อตำรวจสายตรวจเข้าไปตรวจดูแลความปลอดภัย จะสแกน QR Code แล้วรายงานให้เจ้าของบ้านได้ทราบ โดยการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของบ้าน แทนการเซ็นกล่องแดง ซึ่งเจ้าของบ้านแม้ว่าจะอยู่ต่างจังหวัด แต่สามารถดูความเรียบร้อยของบ้านตัวเองได้ทางโทรศัพท์มือถือ โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ส่งข้อมูลให้รับทราบ โดยแอพพลิเคชั่นนี้นำร่องใช้ในพื้นที่ บก.น.9 และในอนาคตจะขยายผลใช้ในพื้นที่อื่นต่อไป

สำหรับโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10-16 เมษายน มีประชาชนเข้าร่วมโครงการฝากบ้านจำนวนมากกว่า 2,000 หลังคาเรือน มากกว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ถึง 2 เท่า

ส่วนในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ประจำปี 2558 ในหลายจังหวัด แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือพบว่าในการตรวจร่างกายคัดกรองหาสารเสพติด พบว่ามีผู้ที่มาตรวจเลือกมีสารเสพติดหลายร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเสพยาบ้า อย่างไรก็ตามการพบสารเสพติดถือว่าผิดหลักเกณฑ์ไม่ต้องเป็นทหารแต่จะถูกดำเนินคดี และเข้ากระบวนการบำบัดฟื้นฟูต่อไป

นอกจากนี้ยังมีเหตุที่จังหวัดตาก ซึ่งพ.ต.ท.นพดล จันทร์ศรี สว.สส.สภ.พบพระ รับแจ้งเหตุขว้างระเบิดที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพบพระ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายฉัทธนาตย์ เทียนขาว นายอำเภอพบพระ และทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เหตุเกิดขณะที่กำลังมีการเกณฑ์ทหาร และผู้ก่อเหตุคือนายอนิวัตร ปีสมโภชณ์ อายุ 22 ปี ที่รับสารภาพว่าก่อเหตุเพราะโมโหที่เพื่อนติดทหาร จึงขว้างระเบิด เพื่อระบายอารมณ์ จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับไปนอนที่บ้าน

ส่วนนายปริญญา แน่นหนา ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพน้ำ การประปานครหลวง (กปน.) แจ้งว่า ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ของทุกปี เป็นช่วงที่มีอากาศร้อนมาก และเป็นสภาวะที่ง่ายต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคในระบบทางเดินอาหาร ทาง กปน.จึงเพิ่มปริมาณคลอรีนในน้ำประปามากขึ้นจากปกติเล็กน้อย แต่ยังเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เวอร์ชั่น 2011 โดยประสิทธิภาพของคลอรีนจะสามารถฆ่าเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงได้ อย่างไรก็ตามน้ำประปาจะมีกลิ่นคลอรีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณบ้านพักอาศัยที่อยู่ใกล้โรงงานผลิตน้ำ แต่กลิ่นคลอรีนจะระเหยไปเอง โดยการรองน้ำประปาใส่ภาชนะสะอาด เปิดฝาตั้งทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที

ปิดท้ายที่เว็บไซต์'ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐอเมริกา ประกาศจัดอันดับ 10 พระราชวังทั่วโลกที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุด(World's most visited palaces and castles) และพระบรมมหาราชวังติดอยู่ในอันดับที่ 3 ซึ่งมีผู้เข้าเยี่ยมชมทั้งหมด 8 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า สถานที่ยอดนิยมของผู้มาเยือนกรุงเทพฯ คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวยอมรับในความสวยงามของสถาปัตยกรรม

โดยปราสาทและพระราชวังที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด10 อันดับได้แก่

          1. พระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ผู้เข้าชม 15,340,000 คนต่อปี

          2. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประเทศฝรั่งเศส ผู้เข้าชม 9,334,0000 คนต่อปี

          3. พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ประเทศไทย ผู้เข้าชม 8,000,000 คนต่อปี

          4. พระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส ผู้เข้าชม 7,527,122 คนต่อปี

          5. พระราชวังโทพคาปี ประเทศตุรกี ผู้เข้าชม 3,335,000 คนต่อปี

          6. พระราชวังฤดูหนาว ประเทศรัสเซีย ผู้เข้าชม 3,120,170 คนต่อปี

          7. หอคอยแห่งลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้เข้าชม 2,894,698 คนต่อปี

          8. พระราชวังเชินบรุนน์ ประเทศออสเตรีย ผู้เข้าชม 2,870,000 คนต่อปี

          9. อัลฮัมบรา และเฆเนราลิเฟ ประเทศสเปน ผู้เข้าชม 2,315,017 คนต่อปี

          10. ปราสาทชุริ จังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ผู้เข้าชม 1,753,000 คนต่อปี

*-*