นายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยในระหว่างวันที่ 7-8 เมษายนนี้ โดยเป็นการเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย ตามคำเชิญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือในสาขาต่างๆ บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งเป็นการเยือนประเทศไทยในระดับนายกรัฐมนตรีของสหพันธรัฐรัสเซียครั้งแรกในรอบ 25 ปี โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายจะหารือข้อราชการกลุ่มเล็ก และหารือข้อราชการเต็มคณะ เพื่อขยายความร่วมมือทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคม รวมถึงประเด็นระหว่างประเทศที่สองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน เมื่อเสร็จสิ้นการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายจะเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงทวิภาคี และแถลงข่าวร่วมกัน
กระทรวงการต่างประเทศได้ออกหนังสือเชิญคณะทูตและองค์การระหว่างประเทศรวมถึงสื่อต่างประเทศในไทยให้ร่วมรับฟังการชี้แจงเรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึกและการบังคับใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว โดยผู้ร่วมบรรยายมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช. ที่กระทรวงการต่างประเทศ ในวันนี้
บ่ายวันนี้มีการประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้ากระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ทาง กมธ.จะพิจารณาทบทวนถ้อยคำในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญรายมาตราและรายละเอียดต่างๆ ทั้งหมดให้มีความเรียบร้อย เพื่อเสนอให้ สปช.พิจารณาภายในวันที่ 17 เมษายน ขั้นตอนนี้คงจะไม่มีการพิจารณาทบทวนแก้ไขหลักการแล้ว เนื่องจาก กมธ.ได้พิจารณาปรับแก้ไขหลักการที่สำคัญเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อวานนี้ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้จัดงานวันครบรอบ 69 ปี เข้าสู่ปีที่ 70 ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ วันเดียวกับที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาสตั้งพรรคภูมิใจไทยครบ 6 ปี ย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ณ ที่ทำการพรรค อาคารเลขที่ 2159/11 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
โดยในเรื่องที่ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหรวารินทร์ ทำนายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างน้อยอีก 3 ปีนั้น พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีจะอยู่ในตำแหน่งอีกกี่เดือนกี่ปีนั้น ขึ้นอยู่กับว่าทำงานสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งหากทุกอย่างเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่รัฐบาลจะต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไป
ขณะที่นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลจะอยู่เกินโรดแมปตามคำทำนายของโหรวารินทร์ต้องมีคำอธิบายที่ดี เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันมาตลอดว่าจะทำตามโรดแมป ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า อยู่ที่นายกรัฐมนตรีว่าจะตัดสินใจอย่างไร ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณอะไร ที่บ่งบอกว่ารัฐบาลจะอยู่เกินกำหนดเวลาที่ประกาศไว้ จึงต้องเชื่อมั่นในคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์
ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เตรียมยื่นหนังสือที่กองทัพบกเพื่อแจ้งขอจัดงานทำบุญในวันที่ 10 เมษายนอีกครั้ง จากที่ไม่ได้รับอนุญาตในรอบแรก ซึ่ง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวว่าเมื่อมายื่นหนังสือแล้วก็จะมีการซักถามเรื่องรูปแบบการจัดงาน และมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. จะไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีสลายการชุมนุมทางการเมือง เมื่อ พ.ศ. 2553
ด้านพล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดเห็นชอบให้ปรับรูปแบบการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี วงเงินก่อสร้าง 31,261 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสาย สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง วงเงินก่อสร้าง 31,675 ล้านบาท โดยให้รัฐเป็นผู้ลงทุนค่าก่อสร้างและส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนเอกชนลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า จัดหาขบวนรถ และบริหารเดินรถและซ่อมบำรุง จากเดิม รฟม.ลงทุนจัดหาขบวนรถเอง กับให้ความเห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) วงเงินก่อสร้างงานรวม 103,949 ล้านบาท ซึ่งนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม.คาดว่า ภายในเดือนเมษายนนี้ หรือไม่เกินเดือนพฤษภาคมนี้จะส่งเรื่องให้กระทรวงและ ครม.ได้
ส่วนกระทรวงการคลังเตรียมขอให้สำนักงบประมาณจัดสรรประมาณปี 2559 ที่กำลังพิจารณาในส่วนของการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้เพียงพอ โดยเฉพาะการชำระเงินต้นไม่ควรต่ำกว่าร้อยละ 3 ของหนี้ทั้งหมด เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง หลังจากงบประมาณปี 2558 ตั้งงบประมาณชำระเงินต้นไม่ถึงร้อยละ 3 ของหนี้ทั้งหมด โดยในการขายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังวงเงิน 4,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.25 ต่อปี ให้กับรายย่อยตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2557-31 มีนาคม 2558 ผ่านธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง มียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าวงเงินที่ตั้ง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากสาเหตุของเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นในระดับต่ำแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้มีกำลังในการออมเงินน้อยลง
อย่างไรก็ตามการขายพันธบัตรออมทรัพย์ไม่หมดนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับแผนการกู้เงินของรัฐบาล เพราะเป็นมาตรการเสริมและเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้มีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ให้ต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมการออม จึงมีการขยายช่องทางในการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ได้ง่ายขึ้นผ่านทางตู้เอทีเอ็มได้อีกช่องทางหนึ่ง
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เตรียมหารือกับนายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ ประธานธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือไอแบงก์ เกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนในการฟื้นฟูฐานะของธนาคาร เนื่องจากตอนนี้มียอดหนี้เสียถึง 57,000 ล้านบาท หรือมากกว่าร้อยละ 50 ของสินเชื่อทั้งหมด โดยในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ดที่จะมีขึ้นปลายเดือนนี้ จะต้องมีการรายงานความคืบหน้าแผนฟื้นฟู และแนวทางที่จะดำเนินการของธนาคารต่อไป
*-*