น้ำมันลดลง หลายชาติ ออกมาตรการเข้มคุมโควิดจากจีน-สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

          ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดลบ ในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.65) เนื่องจาก นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ที่อาจชะลอตัวลง หลังจากหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และ ญี่ปุ่น ออกมาตรการเข้มงวดในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากผู้ที่เดินทางมาจากจีน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมากในประเทศ ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.66 ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 78.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

-สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.66 ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 82.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะกำหนดให้ผู้โดยสารเครื่องบินที่เดินทางมาจากประเทศจีน จะต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR เป็นลบ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 66

         สหรัฐฯดำเนินการตามทิศทางเดียวกับประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น และไต้หวันที่ได้ประกาศข้อกำหนดดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากที่จีน ประกาศเปิดประเทศทั้งขาเข้าและขาออก ทำให้เกิดความกังวลว่าโรคโควิด-19 จะแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดในจีน ยังคงย่ำแย่

         จีนประกาศว่าจะยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 นอกจากนี้ จีนจะกลับมาดำเนินการออกวีซ่าให้กับชาวจีนที่อาศัยในแผ่นดินใหญ่สำหรับการเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 ด้วยเช่นกัน

         นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 718,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ คาดว่า จะลดลง 700,000 บาร์เรล

         ส่วนการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้สัญญาน้ำมันดิบ ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

#น้ำมันโลก

#โควิดในจีน

#สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ

แฟ้มภาพ