หลังตำรวจศาลได้เข้าควบคุมตัว นายประสิทธิ เจียวก๊ก จำเลยในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ได้พยายามหลบหนี ระหว่างศาลอาญาพิจารณาคดี โดยฉวยโอกาสช่วงที่ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้เสร็จภายใน 7 วัน โดยมีผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา เป็นประธานกรรมการเพื่อดำเนินการวางมาตรการและการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ผู้ต้องขังหลบหนีเช่นนี้ได้อีก
โดยหลังเกิดเหตุ ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจากกรณีนี้ว่า ในวันนี้ศาลอาญาได้มีคำสั่งเบิกตัวนายประสิทธิ์ เพื่อสืบพยานโจทก์ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. นายประสิทธิ์ได้พยายามหลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ประจำศาลอาญา โดยได้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมว่า มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย และขออนุญาตเข้าห้องน้ำ
จากนั้น เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม จึงนำตัวนายประสิทธิ์ไปเข้าห้องน้ำสำหรับผู้มาติดต่อราชการที่บริเวณชั้น 9 และยืนเฝ้าอยู่ที่บริเวณหน้าห้องน้ำตลอดเวลา และในเวลาต่อมา เมื่อนายประสิทธิ์ได้ทำธุระเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมพบว่า นายประสิทธิ์ได้เดินออกจากห้องน้ำมา พร้อมกับเปลี่ยนชุดเป็นชุดไปรเวท ไม่ใช่ชุดเครื่องผู้ต้องขัง และถอดกุญแจเท้าออกแล้ว คาดว่า น่าจะมีการนัดแนะเตรียมการไว้กับบุคคลภายนอก เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมจึงได้วิ่งติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณบันได ชั้น 3 และได้ขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ประจำศาล เจ้าพนักงานตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศาล มาช่วยกันควบคุมตัว พร้อมนำตัวกลับมาคุมขังยังห้องควบคุมผู้ต้องขังประจำศาลด้านล่างได้เป็นที่เรียบร้อย ทำให้นายประสิทธิ์ไม่สามารถหลบหนีต่อไปได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ศาลอาญาทราบ และทางศาลอาญาได้แจ้งกองบังคับการปราบปรามเพื่อดำเนินการต่อไป
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ในขณะนั้น ในฐานะหัวหน้าคณะชุดคลี่คลายคดี ได้เปิดปฏิบัติการ “ปิดเกม คนเหนือโลก” บุกทลายเครือข่ายของ นายประสิทธิ์ อ้างตัวเป็นประธานโครงการ “คืนคุณแผ่นดิน” มีพฤติกรรมร่วมกับพวกเปิดบริษัทในลักษณะเครือข่ายใหญ่ หลอกนักลงทุนจนสูญเงินนับพันล้านบาท โดยสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 4 ราย ขณะที่ นายประสิทธิ์ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานเมื่อวันที่ 17 พ.ค. จากการตรวจค้นภายในห้องทำงานส่วนตัวของนายประสิทธิ์ พบรูปถ่ายคู่กับข้าราชการ นักการเมือง และผู้มีชื่อเสียงทางสังคมเป็นจำนวนมาก จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า นายประสิทธิ์ พยายามตีสนิทขอถ่ายรูปคู่กับบุคคลเหล่านี้เพื่อนำมาใช้สร้างภาพลักษณ์ โปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือ ไว้สำหรับหลอกเหยื่อ โดยที่บุคคลเหล่านั้น อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
#หนีศาล