ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากลงมติให้นายอีลอน มัสก์ ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัททวิตเตอร์ หลังจากที่นายมัสก์เปิดโอกาสให้สมาชิกโหวตแสดงความเห็นว่าเขาควรอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ ผลการสำรวจพบว่า ผู้ใช้บริการทวิตเตอร์ร้อยละ57.5 ลงมติให้นายมัสก์ออกจากตำแหน่ง ขณะที่ ร้อยละ 42.5 ให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงความเห็นมากกว่า 17.5 ล้านคน
เมื่อวานนี้ นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัททวิตเตอร์ สื่อออนไลน์รายใหญ่ของสหรัฐฯทวีตข้อความทำแบบสำรวจความคิดเห็น หรือ โพล เพื่อให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ร่วมโหวตว่า เขาควรจะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของทวิตเตอร์หรือไม่ โดยมีเวลาโหวตถึงเวลา 23.20 น.ของวันนี้(19 ธันวาคม 2565) ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร มัสก์ ย้ำว่า พร้อมจะทำตาม
ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายมัสก์ อาจจะต้องลาออก หลังเข้ารับตำแหน่งซีอีโอของทวิตเตอร์ได้ไม่ถึง 2 เดือน ถ้าหากผลโพล สำรวจความเห็นของผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่วนใหญ่เห็นว่า เขาควรลาออก โดยหลังจากเปิดให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ร่วมโหวตได้ไม่นานเมื่อค่ำวาน เสียงส่วนใหญ่ขอให้นายมัสก์ ลาออกจากซีอีโอทวิตเตอร์ ชนะ ฝ่ายที่คัดค้าน ร้อยละ 58 ต่อ ร้อยละ 42
การโพสต์ทวิตเตอร์ต่อๆมา นายมัสก์ พูดเป็นนัยว่า เขาจะพิจารณาเรื่องการลาออกจากซีอีโอของทวิตเตอร์อย่างจริงจัง พร้อมทั้งพูดขู่ด้วยถ้อยคำกำกวมในเรื่องอนาคตทางธุรกิจของทวิตเตอร์ ถ้าผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่วนใหญ่โหวตให้เขาลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของทวิตเตอร์ ระบุว่า ขอให้ทุกคนคิดให้รอบคอบว่า คุณปรารถนาอย่างไร ก็อาจจะได้สิ่งนั้น
นับตั้งแต่เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ด้วยเงิน 44,000 ล้านดอลลาร์ และเข้ารับตำแหน่งซีอีโอเมื่อปลายเดือนตุลาคม นายมัสก์ สร้างประเด็นข่าวใหม่ๆเรื่อยมา เช่น การยกเลิกคำสั่งระงับบัญชีทวิตเตอร์สำหรับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ หลังนายทรัมป์ถูกผู้บริหารชุดเดิมของทวิตเตอร์สั่งแบน ห้ามใช้ทวิตเตอร์มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ฐานแพร่ข้อมูลเท็จและปราศรัยในทำนองปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังและความรุนแรงในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ในช่วงที่เข้ามาบริหารทวิตเตอร์ไม่นาน นายมัสก์ สั่งปลดผู้บริหารระดับสูงและพนักงานหลายคนของทวิตเตอร์ ต่อมาเขายื่นคำขาดให้พนักงานที่เหลืออยู่ตัดสินใจเองว่า จะทำงานหนัก หรือจะลาออก ทำให้พนักงานอีกหลายพันคนลาออก
#ทวิตเตอร์
#มัสก์โพล