อินโดนีเซียมีข้าวในคลังสำรองลดลง ต้องเร่งนำเข้าจากไทย-เวียดนาม-เมียนมา-ปากีสถาน

          สำนักงานโลจิสติกส์แห่งชาติของอินโดนีเซีย (Indonesia Logistics Bureau : Bulog) รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (16 ธ.ค.) รับมอบข้าวปริมาณ 5,000 ตันจากเวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการนำเข้าข้าว 200,000 ตัน ภายในสิ้นปีนี้ (2565) โดย อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศผู้บริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ยังมีแผนนำเข้าข้าวจากไทย ปากีสถาน และเมียนมาสำรองในคลังของประเทศ โดยมีเป้าหมาย 500,000 ตัน จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566

          นายบูดี วาเซโซ ประธานกรรมการสำนักงานโลจิสติกส์ฯ กล่าวว่า ในช่วงหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ปีหน้า อินโดนีเซียไม่มีการเก็บเกี่ยว แต่มักจะมีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ในช่วงสิ้นปี จากระดับเดือนละ 30,000 ตันเป็น 170,000 ตัน จึงคาดว่าปริมาณข้าวที่มีการสำรองไว้จะุไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ทำให้ต้องเร่งนำเข้า

          ขณะที่สำนักงานอาหารแห่งชาติอินโดนีเซีย (Indonesia's National Food Agency : Bapanas) รายงานว่า อาหารหลักในประเทศ เช่น  ข้าว ถั่วเหลือง และเนื้อวัว มีราคาสูงขึ้น โดยราคาข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.62-0.78 ต่อกิโลกรัม และอาจมีราคาสูงขึ้นไปอีกหากมีปริมาณข้าวในคลังสำรองไม่เพียงพอ

          ก่อนหน้านี้ มีรายงานของกระทรวงพาณิชย์ของไทยที่ว่าการส่งออกข้าวในปีนี้มีปริมาณมากเกินเป้าหมาย นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ามีการตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวที่ 7,500,000 ตัน แต่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 14 ธันวาคม มีผู้ส่งออกขอใบอนุญาตส่งออกแล้ว 8,580,000 ตัน ปัจจัยที่สนับสนุนการส่งออกเพิ่มขึ้นคือการที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาข้าวไทยเพิ่มขึ้น อิรักกลับมาซื้อข้าวไทยเพิ่มขึ้นขณะที่ตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ ยังเติบโตต่อเนื่อง ส่วนอินโดนีเซีย และบังกลาเทศ มีการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น เพราะสต็อกข้าวในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภค

….

#อินโดนีเซีย

#ข้าวไทย