สภาผู้แทนราษฎรของนิวซีแลนด์มีมติเมื่อวันอังคาร ด้วยเสียงข้างมาก 76 ต่อ 43 เสียง เห็นชอบกฎหมาย “การจัดระเบียบ” และควบคุมตลาดยาสูบในประเทศฉบับใหม่ มีสาระสำคัญ คือการไม่อนุญาตให้ผู้มีอายุ 14 ปีและน้อยกว่านั้น ซึ่งหมายถึงผู้ที่เกิดวันที่ 1 ม.ค. 2552 และหลังจากนั้น ซื้อบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกประเภท หากฝ่าฝืนต้องชำระค่าปรับเป็นเงินสูงสุด 150,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ( ราว 3.33 ล้านบาท )
นายอาเยชา เวอร์รัล รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า ชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากจะมีอายุขัยยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น ระบบสาธารณสุขนิวซีแลนด์จะประหยัดงบประมาณได้มากถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 174,000 ล้านบาท) เนื่องจากไม่จำเป็นต้องนำเงินดังกล่าวไปใช้รักษาผู้ป่วยที่มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และผู้ป่วยที่จำเป็นต้องตัดแขนขา
ปัจจุบันร้อยละ11.6 ของประชากรนิวซีแลนด์อายุตั้งแต่ 15 ปี สูบบุหรี่ แต่หากรวมกลุ่มเชื้อสายเมารีเข้าไปด้วยแล้ว จะเพิ่มเป็นสูงถึงร้อยละ29 จากประชาชนทั้งประเทศมีประมาณ 5 ล้านคนเท่านั้น
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกในโลกที่จะทำให้เกณฑ์อายุในการซื้อบุหรี่ได้ตามกฎหมายสูงขึ้นทุกปี เพราะกฎหมายล่าสุดที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2566 จะทำให้เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปีในปัจจุบัน ไม่สามารถซื้อบุหรี่มาสูบได้ตลอดชีวิต เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศปลอดบุหรี่ภายในปี 2568
รวมทั้งจะลดจำนวนผู้ค้ารายย่อยเกี่ยวกับบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบในนิวซีแลนด์ ให้เหลือประมาณ 600 ราย ภายในปี 2566 จากปัจจุบันซึ่งมีจำนวนประมาณ 6,000 ราย และการควบคุมปริมาณนิโคตินในผลิตภัณฑ์บุหรี่และยาสูบด้วย เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์ “สังคมปลอดควันบุหรี่” ภายในปี 2568 และการปลูกฝังค่านิยม “เด็กรุ่นใหม่ปลอดควันบุหรี่” ภายในปี 2570
#ประเทศปลอดบุหรี่
ข่าวทั้งหมด