ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายบิลลี พาล์มเมอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากบริษัทวิจัยด้านสุขภาพชื่อ นัฟฟีลด์ ทรัสต์ (Nuffield Trust)ของสหราชอาณาจักรว่า พยาบาลราว 100,000 คน ซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานของราชวิทยาลัยการพยาบาล (Royal College of Nursing- RCN)จากแคว้นอังกฤษ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ จะนัดหยุดงานประท้วง 2 ครั้งในเดือนนี้คือ วันพรุ่งนี้ (14 ธันวาคม 2565)และวันอังคารหน้า(20 ธันวาคม 2565) ขอให้รัฐบาลปรับขึ้นเงินเดือนร้อยละ 19 หรือ ให้สูงกว่าเงินเฟ้อ โดยตัวเลขเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในเดือนตุลาคมอยู่ที่ร้อยละ 14 พร้อมทั้งให้รัฐบาลปรับปรุงสภาพการจ้างงานสำหรับพยาบาลให้ดีขึ้น
ด้าน RCN โพสต์ทางเว็บไซต์ว่า ความปลอดภัยของคนไข้สำคัญสูงสุดเสมอ ระบุว่า พยาบาลอีกส่วนหนึ่งยังคงทำงานตามปกติในโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศในช่วงที่มีการประท้วงในเดือนนี้ ทั้งให้คำมั่นว่าการรักษาทางการแพทย์สำคัญๆ เช่น การให้ยาเคมีบำบัด(chemotherapy)และการล้างไต (dialysis) ยังคงให้บริการตามปกติ ก่อนหน้านี้ RCN ไม่มีนโยบายให้พยาบาลหยุดงานประท้วง จนกระทั่งปี 2538 สหภาพแรงงานพยาบาล RCN เปลี่ยนกฎระเบียบใหม่ อนุญาตให้พยาบาลนัดหยุดงานประท้วงได้ตราบเท่าที่ไม่กระทบต่อเรื่องการดูแลคนไข้
ด้านนายสตีฟ บาร์คลีย์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ระบุว่า รัฐบาลไม่สามารถปรับเพิ่มเงินเดือนตามข้อเรียกร้องของพยาบาล การปรับเพิ่มเงินเดือนเพียงร้อยละ 1 จะทำให้รัฐบาลใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มราว 700 ล้านปอนด์ (หรือ 29,881 ล้านบาท) พร้อมเสนอแนะว่าการประท้วงจะต้องไม่กระทบการบริการสาธารณสุขของประเทศ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเสนอปรับขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำ 1,400 ปอนด์ (หรือราว 59,779 บาท) ต่อปี หรือปรับขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยร้อยละ 4.3 แต่สหภาพแรงงาน RCN ปฏิเสธ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการปรับขึ้นเงินเดือนในอัตราต่ำกว่าเงินเฟ้ออีกมาก
#สหราชอาณาจักร
#พยาบาลประท้วง