รัฐบาลเดินหน้ารับมือภาวะโลกร้อน เพิ่มบทบาทกรม'Climate Change'

09 ธันวาคม 2565, 14:35น.


       การรับมือภาวะโลกร้อน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่4/2565 เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 65  โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็น ประธานการประชุม โดยที่ประชุมรับทราบสรุปผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 27 (COP 27) จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 3-18 พ.ย.2565 ณ เมืองชาร์ม เอล เชค อียิปต์ โดยมีประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาล รวม 102 ประเทศ โดยได้ยืนยันความพยายามของไทยที่ดำเนินการอย่างเต็มที่ร่วมกับประเทศต่างๆ ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก หรือลดภาวะโลกร้อน และรับทราบการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการภายในกระทรวงทรัพย์ฯ  โดยขอเปลี่ยนชื่อ จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็น กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงโครงสร้างภายในให้มีความเหมาะสม 





          หลังจาก วิกฤต Climate Change ส่งผลให้ประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยงอันดับที่ 9 ของโลก จากข้อมูลของ Germanwatch หน่วยงานที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 20 ปีของแต่ละประเทศ ความถี่ของการเกิดภัยพิบัติ ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งที่เกิดภัยพิบัติ แม้ไทยจะเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 0.8% เป็นอันดับที่ 22 ของโลก



          นอกจากนั้น ที่ประชุมยังผลักดันเรื่องการส่งเสริมค่าเสียหายและการสูญเสีย (Loss and Damage) ให้แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบ หลายประเทศกำลังพัฒนา หรือประเทศที่ไม่พัฒนา เรียกร้องให้มีการจัดตั้งกองทุนเฉพาะ และประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องลงงบประมาณปีละ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อนำไปช่วยประเทศที่กำลังพัฒนาและได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ 



          สำหรับกรม Climate Change หรือกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายเพื่อดูแล ศึกษา และรับมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนและปกป้องสิ่งแวดล้อมจัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการเกี่ยวกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ และลดก๊าซเรือนกระจก ประเมินความเสี่ยง และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดำเนินการ และเสนอแนวทางตามพันธกรณีของอนุสัญญา พิธีสาร และความตกลงระหว่างประเทศ และระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ



          รวมถึงการประสานความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงองค์กรในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ นอกจากนี้ยังรวมถึงการวิจัย พัฒนา ถ่ายทอด และส่งเสริมเทคโนโลยีการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมด้วย



          นอกจากนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างผลักดัน (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นกฎหมายฉบับแรกของไทย ยกระดับจากภาคสมัครใจ (Voluntary) เป็นภาคบังคับ (Mandatory) มีการเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารคาร์บอนเครดิต กลไกการเงิน การกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก คาดว่าจะสามารถนำกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรี ภายในต้นปี 2566



 



 



#โลกร้อน



#กรมClimateChange



CR:กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ข่าวทั้งหมด

X