นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาท เปิดตลาดเช้านี้(9 ธ.ค.65) อยู่ที่ 34.70 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้(8 ธ.ค.65) ที่ระดับ 34.79 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้ เงินบาทแข็งค่า เนื่องจากเมื่อคืนนี้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาด มองว่า ความร้อนแรงของตลาดแรงงานในสหรัฐฯ เริ่มซาลง ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.60 - 34.90 บาท/ดอลลาร์
สำหรับคืนนี้ต้องติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย.65 ของสหรัฐฯ ส่วนภาพใหญ่ ตลาดรอดูดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.65 ของสหรัฐฯ และ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในสัปดาห์หน้า
สัปดาห์หน้า ธนาคารกลางชั้นนำของโลก 3 แห่ง จะจัดการประชุมนโยบายการเงินซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 13-14 ธ.ค. 65 ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมตรงกันในวันที่ 15 ธ.ค.65
นักวิเคราะห์และตลาดการเงินต่างคาดการณ์ว่า เฟด, ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมรอบนี้
ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค.65 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า นักลงทุน คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่ นายพาวเวล ส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.65
นักวิเคราะห์ คาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 2.00% ในปีนี้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ ECB ต่างส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มใกล้แตะจุดสูงสุด นายเอ็ดเวิร์ด ซิคลูนา ผู้ว่าการธนาคารกลางมอลตา และเป็นสมาชิกคณะกรรมการ ECB กล่าวว่า เงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุดในไม่ช้า และ ECB ไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้งเหมือนที่ได้ดำเนินการเมื่อวันที่ 27 ต.ค.65
ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% สู่ระดับ 3.50% ในการประชุมรอบนี้ ก่อนหน้านี้ BoE ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.0% ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 65 เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 33 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2532 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เดือนธ.ค.64 นักวิเคราะห์ คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในไตรมาสแรกของปี 66 และอีก 0.25% ในไตรมาส 2 จะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE แตะเพดานสูงสุดที่ 4.25%
#เงินบาทแข็งค่า
แฟ้มภาพ