ราคาน้ำมันโลก ขยับลงอย่างต่อเนื่อง ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(8 ธ.ค.65) เนื่องจาก มีแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวและอุปสงค์ทางพลังงาน ขณะที่ คาดการณ์ว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในสัปดาห์หน้า จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม คาดหมายว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50%
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนม.ค.66 ลดลง 55 เซนต์ ปิดที่ 71.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.พ.66 ลดลง 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
*ราคาน้ำมันกลั่นสำเร็จรูป ลดลงมากถึง 6.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่สต๊อกเบนซินและน้ำมันกลั่น ซึ่งประกอบด้วยดีเซลกับน้ำมันทำความร้อน เพิ่มขึ้นมาก ซ้ำเติมความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงาน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันลดลง คือ เรื่องที่นักลงทุน คลายกังวลเกี่ยวกับการปิดท่อส่งน้ำมันของแคนาดา เนื่องจาก พบการรั่วไหล Keystone เป็นท่อส่งน้ำมันจากรัฐแอลเบอร์ตาของแคนาดาไปสู่แถบกัลฟ์โคสต์และมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า การปิดท่อส่งน้ำมันดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อปริมาณน้ำมันในตลาด
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้แรงหนุนในช่วงแรกจากความหวังที่ว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน ทางการเซี่ยงไฮ้ ประกาศยกเลิกกฎเกณฑ์ที่กำหนดให้ประชาชนต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนเข้าร้านอาหาร หรือสถานบันเทิง โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้(9 ธ.ค.65)
เซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางทางการค้าของจีน ล็อกดาวน์หลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจชะลอตัวลง และทำให้ประชาชนประท้วงมาตรการสกัดโควิด-19
ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากภาวะคับคั่งของเรือบรรทุกน้ำมันดิบของรัสเซียจากท่าเรือในทะเลดำไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้การขนส่งน้ำมัน เป็นไปอย่างล่าช้า หลังมีการบังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียของกลุ่ม G7 และสหภาพยุโรป (EU)
#น้ำมันโลกลดลง
แฟ้มภาพ
ข่าวทั้งหมด