สหรัฐฯขาดดุลการค้าเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4ปัจจัยเงินดอลลาร์แข็งค่า-ส่งออกร่วง

07 ธันวาคม 2565, 18:29น.


          สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจแห่งสหรัฐฯ (U.S. Bureau of Economic Analysis) และสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ (U.S. Census Bureau) เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 78,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับตัวเลขขาดดุลการค้า 74,100 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน โดยมีสาเหตุหลักๆเช่น ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าโดยต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ อีกทั้งอุปสงค์อ่อนแอทั่วโลก ทำให้การส่งออกของสหรัฐฯชะลอตัว



          การแข็งค่าของเงินดอลลาร์จะมีผลให้สินค้าต่างๆมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติ แต่อีกด้านหนึ่ง จะทำให้ผู้ซื้อชาวอเมริกันสามารถนำเข้าสินค้าจากต่างแดนในราคาไม่แพง แต่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในตลาดต่างๆทั่วโลกกระทบการส่งออกของสหรัฐฯเช่นกัน



          สำหรับการส่งออกของสหรัฐฯในเดือนตุลาคม ลดลงร้อยละ 0.7 เทียบกับตัวเลขการส่งออกในเดือนกันยายน และลดลงเกือบร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับตัวเลขการส่งออกของสหรัฐฯในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ ตัวเลขการส่งออกที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นการลดลงด้านการส่งออกสินค้า มากกว่าธุรกิจบริการ



         ราคาน้ำมันดิบลดลงโดยต่อเนื่องนับแต่ต้นปีนี้ โดยราคาเฉลี่ยสำหรับการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 82.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดร้อยละ 5.7 ในเดือนกันยายน และลดร้อยละ 21.7 จากช่วงที่มีราคาสูงสุดในเดือนมิถุนายน แต่สหรัฐฯส่งออกน้ำมันปิโตรเลียมในอัตราที่สูงกว่าการนำเข้า ส่วนใหญ่ซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์



          สำหรับการขาดดุลการค้ากับจีน ลดลงค่อนข้างมากคือ ลดลงร้อยละ 22.6 มาอยู่ที่ 28,900 ล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม เทียบกับตัวเลขขาดดุลการค้า 37,300 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน เป็นผลจากการส่งออกของสหรัฐฯไปจีนในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3 เทียบกับตัวเลขการค้าในเดือนกันยายน ขณะเดียวกัน การนำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐฯลดลงร้อยละ 9.5 ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนลดลง



#สหรัฐฯ



#ขาดดุลการค้าเดือนตุลาคม



 

ข่าวทั้งหมด

X