*บช.น.รวบแก๊งขโมยปิคอัพ–จยย.ในสองพื้นที่ชำแหละขายต่อตามออเดอร์*

04 เมษายน 2558, 13:56น.


การจับกุมคดีขโมยรถปิคอัพและรถจักรยานยนต์(จยย.) ในพื้นที่lสถานีตำรวจนครบาลทุ่งครุและประชาชื่น  พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เปิดเผยว่า ในพื้นที่ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คนคือ นายวินัย สระทองเฮียะ อายุ 30 ปี และนาย จิรยุทธ ถิรธนพาณิชย์ อายุ 29 ปี ซี่งเป็นญาติพี่น้องกัน พร้อมยึดของกลาง เป็นรถปิคอัพอีซูซุ ดีแม็ค สีบรอน์ทองได้ 1 คัน พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558 เวลา 10.45 น. ผู้ต้องหาขโมยรถปิคอัพอีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ถฬ-8922 กรุงเทพฯ บริเวณซอยประชาอุทิศ 91/2 และเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจนพบว่าผู้ต้องหาที่ขโมยรถไป ไปเป็นกลุ่มเดียวกับนางสาวอรุณี นาคบุตร ที่พักอาศัยอยู่จ.กาญจนบุรี จึงได้เข้าค้นและจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสองคน โดยนาย จีรยุทธ ได้ให้การว่ารถยนต์ที่ยึดเป็นของกลางคือรถที่ตัวเองขโมยมาจากจ.สมุทรสาคร และขยายผลตามจับกุมนายถิรภัทร ถิรธนพาณิชย์ บิดานาย จิรยุทธ ที่เกี่ยวข้องด้วย นาย จิรยุทธ ระบุว่า ทำมาแล้ว 3 ปีก่อเหตุรวม15 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ขโมยรถรวม 10 กว่าคัน โดยแต่ละครั้งที่ลงมือใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที เมื่อได้รถมาแล้วจะนำส่งตามออเดอร์ตลาดที่ได้รับสั่งเข้ามา ส่วนมากจะเลือกรถปิคอัพ เพราะเป็นที่ต้องการในตลาดมาก ทั้งการชำแหละชิ้นส่วนรถและขายรถทั้งคันตามแต่ความต้องการ   



ส่วนในพื้นที่สน.ประชาชื่น จับกุมผู้ต้องหาได้สี่คน ประกอบด้วย นายอภิชิต การะจักร อายุ 19 ปี นาย อนุชน อินทร์ด้วง อายุ 21 ปี นายกิตติศักดิ์ ศรีสุข อายุ 26 ปีและนายจักรรินทร์ ทรัพย์แก้ว 23 ปี และยังมีผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ 1 คน คือนายจีระศักดิ์ หรือนิล ภู่ดี ยึดของกลาง ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือไอโฟน เสื้อยืดและ เสื้อแจ็คเก็ต 3 ตัว พร้อมหมวกนิรภัย 1 ใบ และได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดพาทรัพย์นั้นไป สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 เวลา 03.50น. ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้แบ่งกันทำงานเป็น 2 ทีม ทีมหนึ่งจะดูต้นทาง อีกทีมจะทำหน้าที่ขโมยรถจักรยานยนต์  ซึ่งในวันที่เกิดเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น เอ็ม เอ็กซ์ เอส บริเวณเดอะเรสคอนโด ถนนประชาชื่นได้ 1 คัน และจากการเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา พบชิ้นส่วนอะไหล่รถ และเบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์อีก10 กว่าชิ้น ด้านผู้ต้องหา ระบุว่า รถที่ขโมยมาได้ จะนำไปขายต่อได้เงินคันละ 10,000-11,000บาทและนำมาแบ่งกันคนละ 2,500-3,000 บาท โดยนำไปขายมา 2 คันแล้ว ซึ่งการลักทรัพย์จะดูสภาพรถและสภาพแวดล้อมว่าเอื้ออำนวยหรือไม่ ปกติในกลุ่มไม่มีใครทำงาน ด้านผู้เสียหายจากการลักทรัพย์เมื่อวันที่ 30 มีนาคม กล่าวว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวซื้อมาในราคา 7 หมื่นบาทและยังไม่ผ่อนไม่หมด ในวันเกิดเหตุนำรถมาจอดไว้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จนกระทั่งราวตี 4 เจ้าหน้าที่คอนโดมาแจ้งว่ารถของตัวเองถูกขโมยไป  ด้านพล.ต.ท.ศรีวราห์ ระบุว่า ขอให้ผู้เสียหายที่เหลือมาสำรวจว่าอะไหล่ที่ตำรวจพบเป็นชิ้นส่วนรถของตัวเองหรือไม่ และยังระบุว่าส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกลักทรัพย์มักเป็นบุคคลวัยทำงานซึ่งขอให้เก็บรถไว้ในที่ปลอดภัยด้วย



ธีรวัฒน์ 

ข่าวทั้งหมด

X