ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบหนักเช่นกันในวันอังคาร( 6 ธ.ค.65) นักลงทุนกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีการพูดกันมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้เรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ ชี้ว่า ช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน กำลังรออยู่เบื้องหน้า ทำให้มีการมองถึงแนวโน้มการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ
-ดาวโจนส์ ลดลง 350.76 จุด (1.03%) ปิดที่ 33,596.34 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 57.58 จุด (1.44%) ปิดที่ 3,941.26 จุด
-แนสแดค ลดลง 225.05 จุด (2.00%) ปิดที่ 11,014.89 จุด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแบงค์ออฟอเมริกา คาดการณ์ว่า ปีหน้า เศรษฐกิจ 3 ไตรมาสจะเติบโตติดลบเล็กน้อย
ส่วนซีอีโอ ของเจพีมอร์แกน เชส มองว่า เงินเฟ้อจะมีผลต่ออำนาจการซื้อของผู้บริโภค และมีความเป็นไปได้มากขึ้นเล็กน้อยว่าเศรษฐกิจกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะถดถอย
นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เตือนว่า เงินเฟ้ออาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า แม้ว่าขณะนี้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างๆยังคงอยู่ในสภาวะที่ดี แต่สิ่งนี้อาจดำเนินต่อไปได้ไม่นาน ผู้บริโภคมีเงินออมส่วนเกินอยู่ราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์จากมาตรการเยียวยาช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีการใช้จ่ายมากกว่าปีที่แล้ว 10% นอกจากนี้ นายไดมอน กล่าวว่า การที่เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดที่ 5% ก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นตามหลังมุมมองจากแบล็คร็อคและบริษัทด้านการลงทุนอื่นๆ เชื่อว่า นโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟด เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ อาจฉุดให้เศรษฐกิจดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยในปี 2023
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ทำให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ราคาทองคำ ในวันอังคาร พื้นตัวเล็กน้อย
-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนก.พ. 66 เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,782.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
#เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
แฟ้มภาพ
ข่าวทั้งหมด