ให้ปากคำนาน 8 ชั่วโมง ทนาย'พัชรินทร์'ย้ำ เชื่อมโยงตู้ห่าวแค่ทำธุรกิจ ไม่ใช่เชิงชู้สาว

          หลังให้ปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมง นางสาวพัชรินทร์ และนางสาวหลิน ซึ่งมีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัทที่นายตู้ห่าว เป็นประธาน ได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน มีสีหน้าเคร่งเครียดและปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และเดินขึ้นรถไป มีเพียง นายทวีศักดิ์ บุญธรรม ทนายความ ที่ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าการสอบปากคำในวันนี้เป็นการให้ข้อมูลเรื่องเส้นทางการเงินและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ในฐานะผู้ถือหุ้นและกรรมการผู้มีอำนาจในโรงแรม ซึ่งได้ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว พร้อมยืนยันว่าโรงแรมก่อตั้งถูกต้องตามกฎหมาย โดยกู้เงินมาจากธนาคาร 500 ล้านบาท ส่วนที่ดินตั้งโรงแรมเป็นของแม่

          ส่วนความสัมพันธ์ของนางสาวพัชรินทร์ และ “ตู้ห่าว” เป็นเพียงผู้ร่วมธุรกิจกันเท่านั้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเหมือนที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนางสาวพัชรินทร์ รู้จักกับ “ตู้ห่าว” มานานกว่า 10 ปีแล้ว เพราะ “ตู้ห่าว” ทำธุรกิจทัวร์ ส่วนนางสาวพัชรินทร์ ทำธุรกิจโรงแรม จึงต้องมีการประสานงานกันตลอด และที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่านางสาวพัชรินทร์ พยายามหลบหนี  ทนายความยืนยันว่าไม่เป็นความจริง นางสาวพัชรินทร์ ไม่คิดที่จะหลบหนี ยังใช้ชีวิตตามปกติและพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ โดยการเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีทุนจีนสีเทา ได้ดำเนินการไปแล้ว 2 ครั้ง โดยเป็นการชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท รวมทั้งที่มาของทรัพย์สินในการทำธุรกิจ ครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่ 3 และยินดีให้ข้อมูลกับตำรวจทุกเรื่อง

          ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 หนึ่งในชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ รวม 26 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมภายในผับจินหลิงย่านเจริญราษฎร์ ใน 3 ประเด็นหลัก คือ การต่อวีซ่าให้กลุ่มคนจีน เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ กลุ่มคนจีนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับอาชญากรรม เช่น คดีตัดนิ้วที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และกลุ่มคนจีนที่ปรากฏชื่อในกลุ่มธุรกิจสีเทาทั้งหมด โดยจะเป็นการสอบสวนให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริง ยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ใด แต่หากภายหลังพบความผิด จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาต่อไป

          ส่วนการเชิญนางสาวพัชรินทร์ ที่มีข้อมูลว่าเป็นนอมินีของนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว มาให้ปากคำ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับนายตู้ห่าว รวมถึงประเด็นที่มาของทรัพย์สิน เส้นทางการเงิน การทำธุรกิจ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

          สำหรับการเชิญอดีตตำรวจระดับสารวัตร พี่ชายของนางพัชรินทร์ ที่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทในธุรกิจของนายตู้ห่าว รวมทั้งนางสาวสุชาดา เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท มาสอบปากคำวันที่ 8 ธันวาคมนี้ พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เสร็จสัปดาห์นี้ เพื่อรวบรวมผลให้คณะทำงานชุดใหญ่ต่อไป

#ตู้ห่าว